อาชราฟ ฮาคีมี่ นั่งคุยถึงเรื่องราวช่วงต้นซีซั่น 2023-24 ในทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดอีกครั้งของสโมสร
เรื่องราวหลักคือ หลุยส์ เอ็นรีเก้ เทรนเนอร์ใหม่กับแนวทางการเล่นที่ดาวเตะวัย 25 ปีมองว่าทำให้ตนเองดีขึ้นกว่าเดิม และสามารถเล่นฟุตบอลในแบบที่ต้องการ
หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างแบ็กขวาโมร็อกโกกับ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่พัฒนาต่อเนื่องและกลายมาเป็นเพื่อนซี้ที่แทบแยกจากกันไม่ได้
เรื่องราวผ่านปากคำของ ฮาคีมี่ เกือบ 4 นาทีถูกถอดมาเป็นตัวอักษรให้ได้อ่านกัน
พัฒนาการทางด้านนักเตะ
“แน่นอน ผมไม่ใช่นักเตะคนเดิมเหมือนตอนที่ลงเล่นในบุนเดสลีกา ผมเปลี่ยนแปลงไปมากในหลายๆ จุด ดังนั้นผมจึงรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองดีขึ้นกว่าเดิมในทุกๆ ปี โดยเฉพาะเรื่องแนวคิดในการเล่นของผม ผมยังเติบโตขึ้นเล็กน้อยในส่วนของแนวทางการเล่น รวมถึงจังหวะการตัดสินใจในเกม สิ่งเหล่านี้ผ่านการเรียนรู้ทุกๆ ครั้งที่ได้ลงสนาม ผ่านจำนวนนาทีที่คุณได้ลงเล่น ดังนั้นผมจึงคิดว่าตัวเองพัฒนาขึ้นอย่างมากในทุกๆ ปี”
หลุยส์ เอ็นรีเก้
“อย่างที่ทราบกันว่า หลุยส์ เอ็นรีเก้ เพิ่งย้ายมาที่สโมสรและประเทศแห่งใหม่ แต่ต้องพูดตามตรงเลยว่าเขาทำหลายๆ สิ่งในทิศทางที่ถูกต้อง การมาของเขาส่งผลดีกับผมเช่นกัน ในส่วนของความเข้าใจในเกมฟุตบอล รูปแบบการเล่นของเขาเป็นแบบที่ผมต้องการเล่นเช่นเดียวกัน เล่นเกมบุกตลอดเวลา ซึ่งก็เป็นแบบที่เขาเคยพูดว่าผมไม่ใช่แค่กองหลังเท่านั้นเพราะผมยังชอบมีส่วนร่วมกับทีมในการเล่นพื้นที่สุดท้ายของฝ่ายตรงข้าม นั่นคือสาเหตุว่าทำไมผมจึงคิดว่าเขาพูดแบบนั้นออกมาเช่นกัน เพราะเขาบอกให้ผมทำแบบนั้นอย่างสม่ำเสมอ และผมเองก็รู้สึกดีในการทำสิ่งนั้น ผมมีความสุขที่เขามาอยู่ที่นี่และได้ลงเล่นให้กับเขา”
การมีส่วนร่วมในทีม
“อย่างที่ผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่ามันเป็นหน้าที่ที่แตกต่างกัน ผมถูกร้องขอให้มีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้น โดยเฉพาะในตอนที่พวกเราทำเกมบุก ให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการเล่นตรงพื้นที่สุดท้าย มันเป็นเรื่องที่ผมหลงรักและรู้สึกดีมากๆ มีอิสระมากขึ้น นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงเพลิดเพลินกับเรื่องเหล่านี้ เขา (เอ็นรีเก้) เข้าใจว่าผมต้องการอะไร และผมชอบรูปแบบการเล่นเช่นนี้”
คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้
“ใช่ อย่างที่คุณ (ผู้สัมภาษณ์) พูดนั่นแหละ พวกเรามีเพื่อนร่วมทีมมากหลายคน พวกเรารู้จักและเล่นร่วมกับนักเตะมากมาย แต่ในความเป็นจริงนั้นเหลือเพื่อนที่แท้จริงเพียงไม่กี่คน เพราะเมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาจะแยกย้ายออกจากทีม แต่ในกรณีของ คีลียัน มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นต่อกัน ทันทีที่ผมย้ายมาร่วมทีมเขามีส่วนในการช่วยเหลือผมอย่างมาก ในหลายๆ โอกาสที่เขายื่นมือมาช่วยตอนที่ผมต้องการ ซึ่งมันไม่ง่ายเลยโดยเฉพาะสถานะของเขาที่เป็นดาวดังระดับโลก ผมรู้สึกซาบซึ้งใจเขาอย่างมาก เพราะเขาช่วยเหลือผมในตอนที่ผมไม่เข้าใจเรื่องภาษาและยังไม่รู้จักคนอื่นๆ สิ่งนี้กลายเป็นจุดเชื่อมโยงและสร้างรอยต่อความสัมพันธ์ที่พวกเรามีจนถึงทุกวันนี้ และทำให้พวกเราเข้าใจกันและกันทั้งในและนอกสนาม”
ความสัมพันธ์ที่พัฒนาจนถึงปัจจุบัน
“แน่นอน เมื่อคุณเข้าใจเพื่อนร่วมทีมทั้งเรื่องในสนามและตอนอยู่ข้างนอก มันทำให้คุณรู้สึกดีกับเขาเป็นอย่างมาก และมันยังทำให้การเล่นกับเขาง่ายกว่าเดิมด้วย พวกเรายังเข้าใจฟุตบอลในรูปแบบเดียวกัน พวกเราปรับตัวเข้าหากันได้เร็วมาก แค่มองตากันพวกเราก็รู้แล้วว่าเขาต้องการบอลตรงจุดไหนและในเวลาใด มันเป็นเรื่องง่ายในการเล่นร่วมกับเขา”
ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com