สำหรับคริสเตียโน่ โรนัลโด้
นอกจากแรงผลักดันมหาศาล ที่มาจากตัวเองแล้ว หนึ่งสิ่งที่เป็นเหมือนกับแรงกระตุ้นให้เขากลายเป็นนักเตะระดับโลก นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “ครอบครัว” โดยเฉพาะคุณแม่สุดที่รักอย่าง “มาเรีย โดโลเรส อเวยโร่”
ย้อนเวลากลับไป มาเรีย โดโลเรส อเวยโร่ ต้องกลายมาเป็นแม่ม่าย หลังจากคุณพ่อของโรนัลโด้ เสียชีวิตไป อย่างไรก็ตาม เธอก็พยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อเป็นการผลักดันลูกชายคนนี้ จนก้าวมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มภาคภูมิ
ช่วงนี้ เราลองไปย้อนความทรงจำกันหน่อยว่า เธอเลี้ยง “CR7” มาในรูปแบบใดกัน จนเดินทางมาถึงการเป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังเหมือนทุกวันนี้ แน่นอนว่า ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ–แรงกายอย่างมหาศาล
มาเรีย เริ่มต้นเล่าว่า เธอเคยมีความคิด อยากทำแท้งโรนัลโด้ ตอนนั้นพี่สาวของเขาอายุ 12 ขวบ ส่วนพี่ชายก็อายุ 10 ขวบแล้ว ซึ่งเธอไม่ต้องการมีลูกเพิ่มเติมอีกแล้ว ด้วยความจำเป็นในการใช้ชีวิต การทำแท้งเลยแล่นเข้ามาในหัว มันเป็นความจริงที่เธอยอมรับว่าเคยเกิดขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ทำสิ่งนั้นลงไป เธอเดินทางไปหาหมอ อธิบายความยากลำบากที่เกิดขึ้นในชีวิต หมอบอกกับเธอว่า ลูกคนนี้จะสร้างความสุขให้ ด้วยเหตุผลบางอย่างจากพระเจ้า เธอให้กำเนิดโรนัลโด้ โดยเขาเป็นเด็กที่แข็งแรง เกิดมาพร้อมน้ำหนัก 4 กิโลกรัม
เมื่อถูกถามถึงอุปนิสัยวัยเด็กของโรนัลโด้ มาเรีย กล่าวว่า เขาเป็นเด็กชายตัวน้อยที่น่ารักของทุกคนในบ้าน เขาเป็นเด็กดีเสมอมา มีน้อยครั้งมากที่เขาจะออกนอกกฏ นั่นเป็นเพราะเขาชอบออกไปเล่นฟุตบอลจนดึกดื่น บางครั้งกลับเข้าบ้านราว 4 ทุ่ม หรือ 4 ทุ่มครึ่ง แต่นั่นเป็นเรื่องที่สามารถยอมรับได้
อาจจะกล่าวได้ว่า โรนัลโด้ ชอบฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก เขามีรองเท้าเพียงสองคู่เท่านั้น คู่หนึ่งเอาไว้ใส่ไปโรงเรียน อีกคู่เอาไว้ใส่เล่นฟุตบอล ซี่งมันเต็มไปด้วยรอยขาด ทำให้แม่ต้องมานั่งเย็บรองเท้าให้เขาบ่อยครั้ง ซึ่งลูกฟุตบอลติดตัวเขาตลอดเวลา ชีวิตต้องการแค่ลูกบอลเท่านั้น ไม่ต้องการของขวัญอื่น
มาเรีย เปิดเผยเรื่องราวที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า ตอนที่โรนัลโด้ ก้าวไปเล่นกับทีมเยาวชนของสปอร์ติ้ง ลิสบอน เธอคิดว่า เขาคงก้าวมาเป็นนักฟุตบอลเหมือนกับเด็กคนอื่นและไม่เคยคิดว่า เขาจะก้าวมาเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ที่ชื่อเสียงไปไกลเกินกว่าจะจินตนาการถึง
กระทั่งโรนัลโด้ ถูกดันสู่ทีมชุดใหญ่ในช่วงปี 2002 ตอนนั้น ชีวิตเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เขาขอร้องให้คุณแม่เลิกทำงานที่หมู่เกาะมาเดยร่า และย้ายไปอาศัยด้วยที่กรุงลิสบอน เขาเริ่มถูกจับตามองจากแมวมองจากทั่วยุโรป ชีวิตของครอบครัวเริ่มดีขึ้นมาก
มาเรีย กล่าวถึงความกตัญญูว่า ในตอนที่โรนัลโด้ ย้ายไปเล่นกับยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาสามารถซื้อบ้านให้ตัวเองได้ เห็นได้ชัดว่า เขาสามารถช่วยเหลือครอบครัว และคนรอบข้างได้แล้ว
ก่อนที่เขาจะลงสนามแข่งขัน โรนัลโด้ มักที่จะโทรศัพท์มาหาเธอเสมอ เธอก็จะบอกกับลูกชายคนนี้ว่า –โชคดีนะลูก แม่จะสวดภาวนาเพื่อลูกนะ– โดยสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นทุกครั้งก่อนที่เขาจะลงเล่น
เมื่อเขาต้องพบกับความพ่ายแพ้ เขาก็จะโทรมาหาเหมือนเคย เขาจะเต็มไปด้วยความเศร้าหากว่าทีมไม่ชนะ แต่นี่ก็เป็นธรรมชาติของฟุตบอล ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ตลอดเวลา
มาเรีย ทิ้งท้ายว่า เธอสอนโรนัลโด้ หลายเรื่อง โดยมักบอกไปเสมอว่า จงเป็นคนที่ถ่อมตัวให้มากที่สุด เธอไม่อยากให้ชื่อเสียงเงินทอง ลักพาตัวตนของเขาไป วันนี้เราอยู่ในจุดสูงสุด ไม่แน่ว่าวันหนึ่ง เราอาจจะตกลงมาก็ได้
มาเรีย เชื่อว่าโรนัลโด้ ต้องรู้สึกขอบคุณชีวิตทุกวันนี้ เพราะเขาเติบโตมา โดยปราศจากความร่ำรวยใดๆ เราคิดถึงแต่เพียงวันพรุ่งนี้ และช่วยเหลือคนอื่นให้มากที่สุด ทั้งหมดนี้ คือความลับของชายชื่อ “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” ผ่านมุมมองบุคคลสุดที่รักอย่างคุณแม่
ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com