ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าทีมที่อยู่ในสภาพปัจจุบันอย่างโปลิศ เทโร จะทะยานขึ้นไปสู่อันดับที่ 5 ของตารางคะแนนในศึกไทยลีก 1 ได้สำเร็จ หลังบุกไปชนะสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในเกมลีกนัดล่าสุด 2-1

คือถ้าเป็นเมื่อก่อนในตอนที่ยังเป็น “เจ้าบุญทุ่ม” ก็คงไม่มีใครสงสัยเรื่องความสามารถ แต่กับสถานการณ์ปัจจุบันที่เชื่อว่าทุกท่านคงทราบกันดี จึงเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อเหลือเกินที่ขุนพล “มังกรโล่เงิน” จะยังทำผลงานได้ดีถึงขนาดนี้ 


1.นักเตะและทีมงานไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนมาแล้วถึง 5 เดือน 

2.หัวเรือใหญ่ของทีมอย่าง “บิ๊กแมน” ธัญญะ วงศ์นาค และ “โค้ชอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ย้ายข้ามฟากไปอยู่กับการท่าเรือพร้อมทีมงานบางส่วน 

3.กลุ่มทุนจากประเทศกัมพูชาที่ออกข่าวทุกสำนักว่าจะเข้ามาเทคโอเวอร์และเคลียร์หนี้สินต่างๆ ให้ ก็หายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

นี่คือตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสโมสรในฤดูกาลนี้ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะถ้าพูดกันตามตรง ก็ต้องบอกว่าสถานการณ์ของทีมนั้นส่งสัญญาณไม่ดีมาหลายปีแล้ว 


ย้อนไปตั้งแต่ฤดูกาล 2015 ที่แม้จะมีสตาร์ทีมชาติไทยล้นทีมและพึ่งคว้าแชมป์ลีก คัพ ในปีก่อนมาหมาดๆ แต่ทีมก็ต้องตกชั้นไปในช่วงฤดูกาลแข่งขันปกติ เคราะห์ยังดีที่สระบุรี เอฟซี ถอนทีม ทำให้โปลิศ เทโร หรือ บีอีซี เทโร ในขณะนั้น ได้อยู่ต่อในลีกสูงสุด

ต่อมาในฤดูกาล 2016 แม้จะไม่ตกชั้น แต่การเสียนักเตะกำลังสำคัญอย่างชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และพีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ไปให้กับคู่แข่งร่วมลีกอย่างเมืองทอง ยูไนเต็ด ชนิดที่แฟนคลับงงกันทั้งบาง ก็ทำให้พวกเขาเปลี่ยนสถานะจากเจ้าบุญทุ่ม มาเป็นทีมกลางตารางอย่างเต็มตัว 

แม้จะรอดพ้นจากการตกชั้นในฤดูกาล 2017 ได้สำเร็จ แต่สุดท้ายแล้วด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้นในทุกๆ ปี ก็ทำให้พวกเขาไม่อาจหนีจากการตกชั้นในฤดูกาล 2018 ลงได้ ซึ่งการตกชั้นในครั้งนี้ ก็ถือเป็นการปิดตำนานในการลงเล่นลีกสูงสุดมาตั้งแต่ครั้งแรกด้วยเช่นกัน


และแม้จะเลื่อนชั้นกลับสู่บรรยากาศที่คุ้นเคยได้ภายในปีเดียวก็ตาม แต่อดีตสโมสรเจ้าบุญทุ่มแห่งนี้ก็ไม่มีวี่แววจะกลับมาเป็นทีมที่อยู่ในข่ายลุ้นแชมป์ได้เลย

โปลิศ เทโร แปรสภาพจากทีมหัวตารางและลุ้นแชมป์ กลายมาเป็นสโมสรที่เน้นขายนักเตะเพื่อความอยู่รอดของทีม ผู้เล่นคนไหนที่โชว์ฟอร์มได้ดีก็มักจะถูกปล่อยออกไปอยู่กับทีมที่ใหญ่กว่าทั้งสิ้น 

ยกตัวอย่างเช่น ฝาแฝดตระกูลอักษรศรีอย่างทิตาวีร์-ทิตาธร จนมาถึงยุคล่าสุดอย่างเจนภพ โพธิ์ขี, ชานุกูล ก๋ารินทร์ และเฉลิมศักดิ์ อักขี 

อย่างที่ได้บอกไป ปัญหาต่างๆ ในฤดูกาลนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้น แต่มันเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว เอาแค่เรื่องค้างเงินเดือน ก็เคยมีนักเตะหลายคนโพสต์ทวงเงินผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียมาแล้วเช่นกัน 


จะเห็นได้ว่ามีปัญหาเต็มไปหมดในสโมสรแห่งนี้ ดังนั้น การทะยานขึ้นสู่อันดับ 5 ของลีกสูงสุดที่มีแต่เสือ สิงห์ กระทิง แรด จึงเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งของนักเตะและทีมงานในชุดปัจจุบัน 

ลองคิดภาพ ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนแบบเราๆ ท่านๆ แค่เงินเดือนออกช้าสัก 1-2 วัน ก็กังวลจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอนกันแล้ว แต่นี่พวกเขาเจอไปถึง 5 เดือน !!!

ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีใครเป็นฮีโร่ขี่ม้าขาวมาช่วยอดีตแชมป์ไทยลีก 2 สมัยทีมนี้หรือไม่ แต่เท่าที่ติดตามข่าวบนหน้าสื่อในช่วงนี้ ก็เห็นว่าใกล้จะมีข่าวดีแล้ว   

ได้แต่ภาวนาให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะนี่คือทีมที่อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ ทั้งในเรื่องของเกียรติยศและแฟนบอล คงน่าเสียดายไม่น้อย หากสโมสรต้องสูญหายไปจากสารบบของวงการฟุตบอลไทยจริงๆ


ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ยินเพลงเชียร์นี้ของสโมสรต่อไปเรื่อยๆ

หลอมวิญญาณรวมกัน ใจผูกพันมิหน่าย ตราบดินฟ้ามลาย แด่ใจมังกร…


ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com