ตัวห่างไกลแต่ใจยังคิดถึง

จำนวนลงสนาม จำนวนแชมป์กับสโมสร และการทำหน้าที่ในฐานะกัปตันทีม นี่คือหนึ่งในนักตะอันเป็นที่รักของสาวก เลส์ ปารีเซียงส์ 

แม้จะผ่านมา 4 ปีตั้งแต่การแยกทางเดินของ ติอาโก้ กับ เปแอสเช แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดี โดยเฉพาะดาวเตะแซมบ้าทำการเปิดบ้านต้อนรับทีมงานสโมสรที่เดินทางไปสัมภาษณ์ถึงบราซิล

ติอาโก้ คุณอายุ 40 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนยังไม่ถึงเวลารีไทร์?

“ผมไม่ทราบว่าตนเองจะเล่นฟุตบอลอาชีพไปอีกนานเท่าไหร่ ผมก็แค่มีความสุขในการกลับบ้าน ผมจาก ฟลูมิเนนเซ่ เพื่อไปเล่นในยุโรปนานถึง 15 ปี ดังนั้นการกลับมาที่นี่จึงเป็นเรื่องที่วิเศษ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทีมต้องการจริง ๆ ผมอยู่ที่นี่เพื่อช่วยทีม แม้ว่าผมจะอายุ 40 ปี ผมยังคงมีความสุขเสมอในตอนที่ได้ลงสนาม เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้น เมื่อถึงช่วงที่ผมไม่มีความสุขกับการลงสนาม จากนั้นก็คงถึงเวลาที่ผมยุติอาชีพของตนเอง แต่ไม่ใช่ตอนนี้”

15 ปีในเวทียุโรป รวมถึง 8 ปีที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง 

“ผมประสบความสำเร็จภายใต้เสื้อตัวนี้ (เปแอสเช) อย่างมาก ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง เป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับผมและครอบครัวของผมด้วย ผมทุ่มเทสุดความสามารถให้กับสโมสร นี่เป็นสโมสรที่จะอยู่ในใจผมตลอดไป สโมสรที่ไม่ได้ทำให้ผมกลายเป็นมืออาชีพแต่ทำให้ผมเติบโตและกลายเป็นพ่อ ช่วงเวลาที่ปารีสได้เปลี่ยนแปลงตัวผม รวมถึงครอบครัวของผมด้วย”

คุณจำช่วงเวลาในตอนที่ย้ายมาเมื่อปี 2012 ได้หรือไม่?

“จำได้สิ ไม่ง่ายเลยกับการย้ายไปประเทศใหม่ ทำความคุ้นเคยกับวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แต่สโมสร คนในทีม ประธาน (นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่) ช่วยเหลือผมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะท่านประธานที่ทำเพื่อผมเยอะมาก รวมถึง คาร์โล อันเชล็อตติ (กุนซือในตอนนั้น) ผมจำได้ดีในตอนที่ไปสนามซ้อมวันแรก ผมไปถึงสนามและเขาเข้ามาต้อนรับผมพร้อมกล่าวว่า 'พวกเราจะทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมให้กับสโมสรนี้' และเขายังบอกผมเรื่อง (มาร์โก) แวร์รัตติ 'นี่คือเด็กที่น่าเหลือเชื่อ ฉันคิดว่าเขาจะช่วยนายได้เยอะมาก โดยเฉพาะตอนที่ตั้งเกมขึ้นมาจากแนวรับ' นั่นคือสิ่งแรกที่เขาพูดกับผม”

หน้าร้อนปีนั้นยังมี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่เซ็นสัญญากับสโมสร

“ผมอยู่ในเวทีโอลิมปิกที่ลอนดอน และเขาโทร.หาผมพร้อมถามว่า 'ติอาโก้ จริงหรือเปล่าที่นายกำลังจะเซ็นสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง?' ผมตอบกลับไปว่า 'ใช่ ฉันเพิ่งเซ็นสัญญา เพิ่งตรวจร่างกายที่โรงแรม ฉันจะย้ายไปปารีสหลังจบโอลิมปิก แต่ทำไมนายถึงถามฉันล่ะ?' แล้วเขาก็พูดว่า 'เพราะฉันกำลังจะะย้ายไปปารีสเหมือนกัน' ดังนั้นพวกเราจึงได้ร่วมงานกันอีกครั้งที่ปารีส มันเป็นเรื่องที่แสนวิเศษที่ได้เล่นร่วมกับเขาที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง”

8 ฤดูกาล 315 นัด 23 แชมป์ การผจญภัยของคุณกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ถือว่าประสบความสำเร็จ แต่ช่วงเวลาไหนที่อยู่ในความทรงจำของคุณ?

“พูดยากนะ มีช่วงเวลาที่สำคัญเกิดขึ้นมากมาย เกมแรกที่ ปาร์ก (เดส์ แพร็งซ์) ก็พิเศษ มันเป็นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก พบ ดินาโม เคียฟ เกมแรกและประตูแรก มันเป็นเรื่องที่พิเศษมาก ยังมีการคว้าแชมป์ลีกหนแรกหลังจากรอนานถึง 20 ปี พร้อมกับนักเตะที่อยู่กับมาก่อนหน้านั้น อาทิ ปาปูส (ซูมาน่า กามาร่า), (มามาดู) ซาโก้, (คริสโตฟ) ฌัลเล่ต์, (มาติเยอ) บ็อดแมร์, (กีโยม) โออาโร่ ทุกคนเป็นผู้เล่นคนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร เพราะพวกเขาเป็นคนที่อยู่กับทีมก่อนผมจะย้ายมา และแน่นอน ประตูช่วงต่อเวลาพิเศษในเกมปะทะ เชลซี ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อปี 2015 ซึ่งช่วยให้เราผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก”

การผจญภัยของคุณจบลงด้วยการปราชัยในรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งไม่มีแฟนบอลในสนาม คุณเสียใจกับเรื่องนั้นหรือไม่?

“ผมทุ่มเทให้สโมสรสุดความสามารถ ท้ายที่สุดพวกเราเข้ารอบชิงชนะเลิศแต่คว้าชัยมาครองไม่ได้ โชคไม่ดีที่ โควิด-19 ทำให้ผมไม่สามารถกล่าวลาแฟนบอลได้ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากทำ แต่ผมจำได้ดีในช่วงก่อนเดินทางไปลิสบอน พวกเราลงเล่นเกมกระชับมิตร (พบ เซลติก) ที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ซึ่งมีการลดจำนวนผู้เข้าชมกว่า 90% แต่ก็ยังมีแฟนบอลทำบางอย่างให้กับผม มันมีความหมายอย่างมากเพราะผมทุ่มเททุกอย่างให้กับสโมสร ดังนั้นการได้รับข้อความอำลาจากแฟนบอลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญสำคับผมอย่างยิ่ง”

แล้วความสัมพันธ์กับสโมสรในตอนนี้เป็นอย่างไร? คุณยังเป็นแฟนบอล ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง อยู่หรือไม่?

“แน่นอน ผมดูเกมทุกนัดเมื่อโอกาสเอื้ออำนวย ซึ่งมันเป็นเรื่องแปลก เพราะทุกครั้งที่ผมดู ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ผมกลับรู้สึกเหมือนตัวเองยังอยู่ที่สโมสร ผมคิดว่ามันเป็นเพราะผมอยู่ปารีสมานานและมันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผม มันคือช่วงเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตของผมและในฐานะนักฟุตบอล รวมถึงในฐานะพ่อ มันสุดยอดมาก ผมจะพูดอะไรได้อีก? ผมก็แค่อวยพรให้สโมสร แฟนบอล และเมือง ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง คือสิ่งมหัศจรรย์และสิ่งที่ดีเลิศ”