ถึงตอนนี้ ทีมชาติไทย ยังเป็น 1 เดียวจากอาเซียนที่มีโอกาสมากสุด บนเส้นทางการไปต่อรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึกเอเชียนคัพ

เพื่อนบ้านเบอร์ 1 อาเซียน อย่าง เวียดนาม นำหน้าเราไปไกลตามที่เหล่า
“ไทยนาม” ชอบย้ำนักน้ำหนาในโซเชียล หลังเก็บกระเป๋าไปรอสนามบินเป็นชาติแรก ตกรอบแบบ 100%

ขณะที่ อินโดนีเซีย แม้จะตบ เวียดนาม มา แต่ยังต้องไปลุ้นกับ ญี่ปุ่น ในเกมสุดท้าย เช่นเดียวกับ มาเลเซีย ที่แพ้มาในเกมแรกและต้องมาวัดกับ บาห์เรน ในเกมที่สอง

ตัดภาพมายังทัพ “ช้างศึก” ที่เก็บ 3 แต้มแรก อย่างหักปากกาเซียนสื่อไทย-ต่างชาติ จนทำให้สปอตไลต์เริ่มกลับมาส่อง

หลายคนมองว่าเกมกับ โอมาน อาจเป็นตัวชี้วัดฟอร์มจริง ๆ ของ ทีมชาติไทย ในทัวร์นาเมนต์ได้เลยว่าจะเข้าข่าย “ม้ามืด” ของรายการนี้หรือไม่

สถานะปัจจุบันขณะ มาซามาดะ อิชิอิ ไม่มีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บใด ๆ ในราย พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกระหว่างพักครึ่งในเกมพบ คีร์กีซสถาน กลับมาลงซ้อมได้ตามปกติ

โดยรวมคือสมบูรณ์ทั้ง “ร่างกาย” และ “จิตใจ”



คงอยู่ที่ อิชิอิ แล้วว่า จะงัดไม้เด็ดแท็คติกใดมาสู้กับ โอมาน เพราะนี่คือคู่ต่อสู้ที่ค่อนข้างต่างจาก คีร์กีซสถาน ที่เราพบมาในเกมแรก

จริงอยู่ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก คีร์กีซสถาน สามารถเอาชนะ โอมาน ได้ แต่นั่นคือเมื่อ 2 เดือนก่อน กลับกันเมื่อมองฟอร์มการเล่นล่าสุดที่แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 ต้องบอกได้ว่า “น่ากลัว”

ทีมของ บรันโก อิวานโควิช ค่อนข้างลงตัว โดยเฉพาะแนวรุกที่เล่นกันได้อย่างรู้ใจ เกมริมเส้นที่รวดเร็วทั้งการเจาะตามช่อง ประสานงานร่วมกัน หรือครอสเข้าไปเล่นในเขตโทษ ตามสไตล์ฟุตบอลอาหรับ ทำให้ทีมชาติไทยต้องเจอศึกหนักในเกมนี้แน่นอน

อย่างไรก็ตาม การที่ทีมชาติไทยจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายตามเป้าที่ตั้งไว้ ก็ต้องผ่าน โอมาน ไปให้ได้เช่นกัน

จริงที่ โอมาน น่ากลัว แต่ช้างศึกชุดนี้ก็อยู่ในช่วงมั่นใจ ยกระดับการเล่น และรูปแบบการเข้าทำได้น่าประทับใจ โดยเฉพาะสปีดบอล การเล่น “เฟิร์ส
ทัช”
ที่ทำได้ค่อนข้างเนียนตา แม้จะมีเวลาเก็บตัวเพียง 9 วัน น้อยกว่าใครในทุกชาติที่เข้าร่วม

แต่ในเวลาจำกัดจำเขี่ย อิชิอิ ก็ทำให้เห็น “การเปลี่ยนแปลง” แบบกะทันหันในแบบที่แฟนบอลอย่างเรา ๆ ยังเซอร์ไพรส์


ภาพรวมอาจยังไม่สมบูรณ์แบบ (แหงสิเก็บตัวแค่ 9 วัน) มีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างเกมที่ยังผิดพลาดให้เห็น โดยเฉพาะเกมรับ แต่ก็หวังว่าจะถูกแก้ไขให้เหลือน้อยที่สุด ก่อนวันเจอ โอมาน

ในแง่ของเป้าหมาย เชื่อว่าทุกคนมองถึง 3 คะแนนในเกมนี้ เพราะสามารถการันตีการเข้ารอบได้อย่าง 100% หรืออย่างแย่คือต้องมีคะแนนไว้ก่อน เพื่อไปลุ้นในเกมสุดท้าย

แน่นอนว่าไม่ใช่งานง่าย เพราะ โอมาน จะบุกใส่เราแบบพายุแน่ เนื่องจากเขาแพ้มาในเกมแรก และต้องการชัยชนะในเกมนี้ เพื่อกลับสู่เส้นทางการเข้ารอบถัดไป

แต่สิ่งนี้แหละคือ “มิชชั่น” ของทีมชาติไทย และ อิชิอิ สู่การค่อย ๆ ก้าวไปแตะกำแพงระดับเอเชีย การจะไปถึงจุดนั้นได้ต้องค่อย ๆ ฝ่าด่านทีมเหล่านี้ไปก่อน

หากเราทำได้ นอกจากจะได้บัตรผ่านการันตีสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายตามเป้าที่ตั้งไว้

โบนัสสำคัญ X2 คือ ทีมชาติไทย จะกลับคืนสู่ท็อป 100 ทันที หากเอาชนะ โอมาน ในเกมนี้ได้สำเร็จ

โอมาน ปัจจุบันอยู่อันดับ 74 ของโลก พวกเขามีคะแนนเหนือกว่า ทีมชาติไทย อยู่ถึง 39 อันดับ (ไทยอยู่ 113)

ดังนั้นการชนะ โอมาน จะทำให้คะแนนแรงกิงทีมชาติไทยจะเพิ่มขึ้นราว 21.48 คะแนน ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ที่ช้างศึกจะกลับสู่ท็อป 100

มาร่วมแรงร่วมใจกันสู้ถึงที่สุด แฟนบอลเองก็พร้อมเป็นลมใต้ปีกให้

หากอยากก้าวข้ามแค่ โอมาน ก็ต้องผ่านไปให้ได้

   


ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com