กาอิซก้า เมนดิเอต้า ชื่อนี้อาจจะซีดจางไปบ้างในความทรงจำ หรือกับเด็กรุ่นใหม่ อาจ เอ๊ ! ว่าเขาไปเป็นใคร แต่ถ้าถอยกลับไปในยุคปลาย 90 ถึงต้น 2000 แล้วล่ะก็ ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะนี่คือหนึ่งในสุดยอดมิดฟิลด์ของวงการลูกหนังสเปนที่เล่นได้ครบเครื่องจนยากจะหาใครทาบ
วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ผ่านการช่วยเหลือจากมิสเตอร์จอร์โจ้ เจ้าหน้าที่ของ ลา ลีกา ทำให้ผมได้โอกาสพิเศษสัมภาษณ์เขาแบบเอ๊กคลูซีฟ
เราคุยกันหลายเครื่อง แต่เนื่องด้วยศึก เอล กลาซีโก้ กำลังจะระเบิดขึ้นในวันนี้ จึงรีบตัดเนื้อหาช่วงนี้ออกมาให้ติดตามกันก่อน เนื่องจาก เมนดิเอต้า เองเคยสวมเสื้ออาซูลกราน่ามาแล้วเมื่อปี 2002-03
ถาม : เรามาพูดถึง เอล กลาซีโก้ กันครับ , คุณมอง ชาบี อดีตเพื่อนร่วมทีมของคุณในบทบาทของเทรนเนอร์ยังไงบ้าง ?
ตอบ : ผมมองว่า ชาบี ในวันนี้ ใกล้เคียงกับสิ่งที่เขาเป็นในฐานะผู้เล่นมาก แม้ว่าตอนที่ผมยังเป็นผู้เล่น เขาก็เกือบจะเป็นโค้ชอยู่แล้ว เป็นมิดฟิลด์ เป็นมันสมองของทีม คอยออกคำสั่ง เขามีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก
ผมมักจะพูดเกี่ยวกับ ชาบี อยู่เสมอว่า เขายังคงเป็นคนเดิมไม่ว่าจะในวันที่ประสบความสำเร็จคว้า 30 แชมป์ หรือในวันที่เป็นเด็กหนุ่มที่ยังไม่ได้แชมป์อะไรเลย
เขายังเหมือนเดิม ยังคงอ่อนน้อมถ่อมตน เข้าถึงง่าย ผมคิดว่าเขาทำงานของตัวเองที่ บาร์ซ่า ได้วิเศษ บางทีผู้คนอาจลืมไปว่าตอนที่เขาเข้ามา สโมสรนั้นอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เพราะมีการเลือกตั้ง มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นมากมาย และ ชาบี ก็สามารถทำงานอยู่ท่ามกลางพายุเหล่านั้น
เขากำหนดทิศทางการเล่นที่ชัดเจน มีแนวคิดที่ชัดเจน แล้วที่ชัดเจนอีกอย่างก็คือเขาได้ปฏิวัติกฏของทีมเสียใหม่ ผมคิดว่าเขาสามารถจับจุดได้ว่าสโมสรต้องการอะไรในตอนที่เขามาถึง และอะไรคือสิ่งที่นักเตะต้องการในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เราได้เห็นว่าเขาเริ่มด้วย 4-3-3 จากนั้นก็เปลี่ยนเป็น 4-4-2 จากนั้นมีการเล่นแบบ double pivot ชาบี มีความสามารถในการปรับตัวตามสิ่งที่เขามีอยู่ในมือได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขารู้ว่าจะต้องทำอะไรในแต่ละเกมได้อย่างไม่มีที่ติ
ถาม : คุณคิดอย่างไรกับการปรับแท็คติกการเล่นของ อันเชล็อตติ ดูเหมือนว่าเขาจะปรับทั้งระบบมาเพื่อ เบลลิ่งแฮม คนเดียวเลย ?
ตอบ : ตอนนี้เขายิงไปแล้ว 8 ประตูหรือเปล่า ?
ถาม : 11 ตอนนี้ประตูรวมทุกรายการ
ตอบ : เมื่อครู่ผมพูดถึงว่าพวกเทรนเนอร์จะต้องความสามารถในการปรับตัว และ อันเชล็อตติ ผมคิดว่าเขามีความเข้าใจว่าจะต้องทำอะไรกับนักเตะที่มีความสามารถอย่าง เบลลิ่งแฮม และผมคิดว่าที่เขาทำก็เพราะว่าเขาไม่มีกองหน้าตัวเป้าที่แท้จริงหลังการย้ายออกไปของ คาริม เบนเซม่า
ผมคิดว่าในทีแรกเขายังไม่มีความแน่ใจว่าจะเล่นอย่างไรกับกองหน้าตัวเป้าที่มี เขาจึงตัดสินใจไปปรับแต่งในแดนกลางแทนและเปิดโอกาสให้ เบลลิ่งแฮม ได้ขยับจากพื้นที่ด้านนอกเข้าไปในกรอบเขตโทษเพื่อยิงประตู รวมถึงนักเตะคนอื่นที่ถนัดโจมตีจากทางด้านนอก อย่าง วินิซิอุส อย่าง โรดรีโก้ หรืออย่าง กามาวินก้า ซึ่งก็แล้วแต่ว่าวันนั้นเขาเล่นตำแหน่งอะไร แต่นั่นก็แน่นอนว่าเขาทำให้ทีมสามารถโจมตีจากนอกกรอบเขตโทษเข้ามาได้
แต่ความจริงแล้วผมคิดว่ามันเซอร์ไพรส์ทุกคนเลยกับความสามารถในการทำประตูของ เบลลิ่งแฮม เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะยิงประตูได้มากมายในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ เราไม่แปลกใจกับการเล่นของเขา แต่แปลกใจกับคุณภาพในการยิงประตูของเขา
ถาม : เพื่อเอาชนะ เรอัล มาดริด วันเสาร์นี้ ชาบี กับเด็กๆจะต้องทำอย่างไร เขาจะต้องหยุดยั้ง เบลลิ่งแฮม หรือทำบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษกว่านั้น ?
ตอบ : มันขึ้นกับการเล่นของ มาดริด ด้วยว่าเล่นแบบไหน ถ้าเล่นด้วยการใช้ โฆเซลู ยืนหน้าเป้า มันชัดเจนว่าแตกต่างกับการเล่นด้วยกองหน้าที่โดดเด่นของพวกเขาอย่าง วินิซิอุส และ โรดรีโก้ แบบนี้ไม่จำเป็นจะต้องมาร์กแบบตัวต่อตัว แต่จะต้องมีสมาธิคอยจับจ้องว่านักเตะมาดริดจะเข้ามาในพื้นที่สุดท้ายหรือในกรอบเขตโทษตอนไหน
แน่นอนเรารู้ดีว่า เบลลิ่งแฮม มีความสามารถในการทะลุเข้ามาในพื้นที่สุดท้ายและอ่านจังหวะเกมในช่วงเวลาสำคัญ แต่ที่สุดผมคิดว่า บาร์ซ่า จะต้องมีสมาธิอยู่กับเกมของตัวเองมากกว่าจะไปคิดว่า มาดริด สามารถทำอะไรได้บ้าง
นักเตะบาร์ซ่า จะต้องมีความอดทนกับบอลที่มีอยู่ แต่ความจริงก็คือในหลายๆจังหวะพวกเขาจะต้องมีความสามารถในการโจมตีตรงพื้นที่ว่างเหมือนอย่างที่เราเห็น เฟร์มิน โลเปซ ทำในเกม แชมเปี้ยนส์ลีกนัดล่าสุด หรืออย่างที่ กาบี ทำในหลายๆครั้ง นักเตะที่สามารถโจมตีไลน์ของฝั่งตรงข้ามเพื่อสร้างพื้นที่ว่างให้กับตัวเองและคนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม เรายังไม่รู้ว่า ชาบี จะเล่นยังไง เพราะเราไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว เลวานดอฟสกี้ จะได้เล่นสนามมั๊ย แต่ถ้าตามที่เห็นก็น่าจะใช้ เฟร์ราน ตอร์เรส ในตำแหน่ง False 9 และมีตัวโจมตีด้านข้างอย่าง ยาลมาล หรือ เฟลิกซ์
ผมคิดว่าทั้งสองทีมต่างก็มีโอกาส แต่เราถ้าได้เห็นไลน์อัพการจัดตัวผู้เล่นของทั้งคู่แล้วเราก็น่าจะวิเคราะห์ได้ชัดเจนขึ้นว่าทั้งสองทีมต้องการจะเล่นอย่างไร
โอเค สิ่งดีที่เราจะได้เห็นในเกมนี้ก็คือ เอล กลาซีโก้ ที่แตกต่างออกไปจาก เอล กลาซีโก้ ครั้งก่อนๆ ไม่ใช่เพราะจำนวนผู้เล่นบาดเจ็บที่ทั้งสองทีมเผชิญอยู่ แต่มันคือโอกาสที่ บาร์ซ่า จะได้ใช้งานนักเตะอายุน้อยๆจาก ลา มาเซีย ลงสนามหลายคน และ มาดริด แน่นอนจากการมาของนักเตะคนนึงที่แทบจะทดแทนการขาดหายไปของนักเตะถึง 2 ราย ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นว่าแต่ละฝั่งจะปรับตัวยังไงในเกมที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาลเปิดมาจนถึงขณะนี้
ถาม : ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คัมป์ นู คือสนามที่ยากที่สุดในโลก แต่เวลานี้ บาร์ซ่า ต้องเล่นใน มอนต์ จูอิก จุดนี้ถือเป็นข้อเสียเปรียบของ บาร์ซ่า หรือเปล่า ?
ตอบ : จนถึงตอนนี้ความจริงก็คือยังไม่ใครบุกไปเอาชนะที่นั่นเลย ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์มากๆที่พวกเขาปรับตัวกับการเล่นที่นั่นได้อย่างรวดเร็ว เพราะความจริงผมดู บาร์ซ่า เล่นที่นั่นเกือบทุกนัด บรรยากาศในสนามชวนให้คิดถึงที่ คัมป์ นู
แน่นอนว่าเราไม่ได้กำลังเปรียบเทียบความจุของสนามที่อยู่ระหว่าง 35,000-68,000 ที่นั่งกับ แฟนบอล 90,000 หรือ 80,000 ที่ คัมป์ นู อันนี้คือความแตกต่างที่สังเกตได้ชัด แต่ บาร์ซ่า สามารถสร้างบรรยากาศที่สำคัญสำหรับทีมขึ้นสำเร็จที่ มอนจูอิกต์ ทำให้ทีมรู้สึกว่าได้รับการโอบอุ้ม ผมคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับ บาร์ซ่า เท่าไหร่นะสำหรับการเล่นที่นั่น
ถาม : สำหรับคุณแล้ว ใครจะเป็นผู้ชนะในเกมนี้ ?
ตอบ : มันยากเพราะเรากำลังพูดถึงส่วนที่ยากที่สุดด้วยเหตุนี้มันถึงเป็นงานของโค้ช มากกว่าที่เราจะพยายามเดาว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
แม้จะผ่านมาหลายปี แต่สำหรับผมแล้วผมคิดว่าปัจจัยเรื่องของการเล่นในบ้าน หรือนอกบ้านนั้นมีความสำคัญเสมอ ผมคิดว่ามันเกี่ยวข้องก้น แม้ว่ายุคของ เป๊บ 2 หรือ 4 นัดของ เอล กลาซีโก้ บาร์ซ่า จะสามารถเอาชนะได้ทั้งที่ คัมป์ นู และที่ เบร์นาเบว แต่ว่าโดยทั่วไปแล้วปัจจัยแวดล้อมอย่างสนามผมคิดว่ามีส่วนสำคัญมาก ซึ่งด้วยเหตุผลนี้ผมคิดว่า บาร์ซ่า นั้นได้เปรียบเพราะเล่นในบ้าน
นอกจากนี้ผมคิดว่ายังมีข้อแตกต่างกันอีกจุดคือ ถ้าเรามองกันที่ขุมกำลังทั้งหมด บาร์ซ่า มีนักเตะที่สามารถยิงประตูได้หลายคน เช่น เฟร์ราน หรือ เฟลิกซ์ หรือจะเป็น เฟร์มิน , กาบี
ขณะที่ฝั่ง มาดริด ดูจะมีอ๊อปชั่นน้อยกว่า โอเคว่ามี เบลลิ่งแฮม,วินิซิอุส,โรดรีโก้ รวมถึง วัลเวร์เด้ ด้วย แต่ถ้าให้คิดเร็วๆ เราจะคิดถึงแค่คนเดียวนั่นก็คือ เบลลิ่งแฮม อ๊อปชั่นตรงนี้ผมคิดว่ามันสามารถสร้างความแตกต่างใน เอล กลาซีโก้ หนนี้ได้
ถาม : ขอสกอร์หน่อยได้มั๊ยครับ ?
ตอบ : สกอร์เหรอ ผมคิดว่า มาดริด น่าจะยิงได้เพราะแนวรับของ บาร์ซ่า ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนปีที่แล้ว แต่เมื่อเราให้ มาดริด ยิงได้ 1 ประตูแล้ว จากนั้นต่อมา บาร์ซ่า น่าจะชนะสัก 2-1 ใช่ สัก 2-1
ถาม : เกมนี้สามารถตัดสินแชมป์ ลา ลีกา ได้เลยหรือไม่ ?
ตอบ : ไม่, ผมคิดว่าไม่ มันเร็วเกินไป มันอาจเป็นจุดพลิกผันสำคัญในแง่ของสภาพจิตใจ แล้วก็ในเรื่องของอันดับในตารางคะแนนที่ เรอัล มาดริด กับ บาร์ซ่า จะสลับกันขึ้นลง
แต่ผมคิดว่าสำหรับ บาร์ซ่า แล้ว จะได้รับผลกระทบต่อผลการแข่งขันมากกว่า พวกเขาเป็นทีมวัยรุ่น ถ้าชนะจะยิ่งช่วยเสริมความมั่นใจให้กับพวกนักเตะอายุน้อยให้มากยิ่งขึ้น แต่ถ้าแพ้มันจะเป็นอะไรที่หนักหนามาก ดังนั้นผมคิดว่าผลแพ้-ชนะในเกมนี้มีผลสำคัญต่อกำลังใจของฝั่ง บาร์ซ่า มากกว่าฝั่ง มาดริด
ถาม : มีเพียงแค่ 2 ทีมเท่านั้นเหรอที่จะต่อสู้แย่งแชมป์กันจนถึงท้ายฤดูกาล มีทีมอื่นๆอีกมั๊ยที่มีโอกาส เช่น จีโรน่า ,เรอัล โซเซียดาด ,แอต.มาดริด ?
ตอบ : เราพูดกันมานานหลายปีแล้วว่า ลา ลีกา คือลีกที่มีการแข่งขันกันสูงในยุคก่อนหน้านี้ก็มี บาเลนเซีย, เดปอร์ตีโบ ที่สอดแทรกขึ้นมา (เป็นแชมป์) ก่อนหน้านั้นยุคอดีตก็ แอธ.บิลเบา ส่วนลีกอื่นๆ ก่อนหน้านี้ก็มีแค่ เลสเตอร์ ที่ 100 ปีจะเกิดขึ้นสักครั้ง
ลา ลีกา คือลีกที่มีทีมคว้าแชมป์แตกต่างกันมากที่สุด ตรงจุดนี้มันแสดงให้เห็นถึงระดับการแข่งขันอันเข้มข้นของ ลา ลีกา
จีโรน่า ฤดูกาลที่แล้วพวกเขาที่ทำได้ดี เรอัล โซเซียดาด ก็มีช่วงต้นฤดูกาลที่แล้วที่ขึ้นนำจ่าฝูง ส่วน แอตเลติโก มาดริด เราไม่สามารถตัดพวกเขาออกไปได้เลย
กับ จีโรน่า ในปีนี้เราต้องจับตามองกันต่อไป แต่เห็นได้ว่าพวกเขาไม่ได้มาแค่ชั่วครั้งชั่วคราว พวกเขาทำได้ดีตั้งแต่ปีก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มาดริด กับ บาร์ซ่า คือสองตัวเต็ง รวม แอตเลติโก มาดริด เข้าไปด้วยก็เป็น 3 อืมรวม เรอัล โซเซียดาด เข้าไปด้วยก็ได้
เจมส์ ลา ลีกา
ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com