ช่วงเวลาที่เดินไปอย่างช้าๆ ทำให้บางครั้งรู้สึกเหมือนยังปรับตัวไม่ทันกับการปรับเปลี่ยนศักราชใหม่

สิ่งเหล่านี้คงเกิดขึ้นในหมู่แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บางรายเพราะต้องผิดหวังส่งท้ายปี 2023 กับการปราชัย น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 

บาดแผลที่ ซิตี้ กราวน์ ยังคงกัดกินอยู่ลึกๆ โดยเฉพาะผลงานที่ตอกย้ำอีกครั้งถึงความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของ ปิศาจแดง ในซีซั่นนี้

ยิ่งเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ยูไนเต็ด ทำผลงานติดลบแพ้ 5 จาก 8 นัดในทุกรายการ ส่งผลบรรยากาศรอบๆ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ยังคงอึมครึม เกิดคำถามยิงตรงไปที่ทีมแบบเลี่ยงไม่ได้

เป็นปัญหาที่เกาะกุม ผีแดง มาต่อเนื่องซึ่งเรื่องนี้ เอริก เทน ฮาก ได้แต่ส่ายหน้าปวดหัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้คำกล่าวอ้างเรื่องอาการบาดเจ็บจะถูกพูดถึงในช่วงที่ผ่านมา แต่กลับถูกมองเป็นเรื่องของการแก้ตัวเสียมากกว่า

ไม่แปลกที่หลายคนจะคิดเช่นนั้น อาการบาดเจ็บเกิดขึ้นกับทุกทีม แต่หากมองในมุม ปิศาจแดง สิ่งที่แฟนบอลอยากเห็นคือ 'ทรง' หรือ 'รูปแบบ' การเล่นที่มีความชัดเจน (หรือเรื่องของศักยภาพเชิงลึก) แต่สิ่งที่ได้เห็นมาตลอดซีซั่นนี้คือผลงานขึ้นๆ ลงๆ ไหนจะรูปแบบที่ยังไม่มีความชัดเจนหรือการเล่นสะเปะสะปะ ยิ่งทำให้สาวกเกิดข้อสงสัย

เดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่สลับกันไปเช่นนี้มาโดยตลอดไม่ต่างจากคนเมาที่เดินเอนไปโอนเอนมาชนิดที่หาเส้นทางอันแน่นอนไม่เจอ

นั่นคือการบ้านใหญ่ซึ่ง 'อีทีเอช' แก้ไม่ตกและกลายมาเป็นโจทย์ใหญ่ของปีนี้กับช่วงเวลาครึ่งหลังของซีซั่นที่ต้องพัฒนาผลงานและ 'การเล่น' ให้แน่นอนกว่าเดิม

โอกาสแสดงผลงานด่านแรกของ 2024 คือการออกไปเยือน วีแกน บนเวที เอฟเอ คัพ คืนวันจันทร์นี้ ด้วยศักยภาพหรือขุมกำลังเทมาฝั่ง ปิศาจแดง แบบไม่ต้องสงสัย แต่ขึ้นชื่อว่า 'เอฟเอ คัพ' บวกับผลงานอันไม่มั่นคงของ ยูไนเต็ด จึงเกิดข้อสงสัยถึงโอกาสที่จะเจองานหนัก ไหนจะพลังแฝงของทีมรองบ่อนที่พร้อมทำแสบ จึงเป็นเกมที่ เทน ฮาก และลูกทีมประมาทไม่ได้

สิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องทำคือผ่านด่านแรกของ เอฟเอ คัพ ไปให้ได้ เพราะว่ากันตามตรงนี่คือความหวังสุดท้ายในการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ของสโมสร

กระเด็นตกรอบ คาราบาว คัพ แบบหมดรูป สร้างผลงานอันน่าผิดหวังบนเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ต้องพูดถึง พรีเมียร์ลีก ที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ทำให้ความหวังสุดท้ายตกไปอยู่ในรายการอันเก่าแก่ที่สุด 

ทุกอย่างจึงอยู่ในมือ เทน ฮาก และขุนพล ยูไนเต็ด จะสร้างเส้นทางอย่างที่พวกเขาต้องการได้หรือไม่ 

แม้บรรดาเสือสิงห์กระทิงแรดยังคงเดินกันพลุกพล่าน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ณ ตอนนี้คือการทำงานของตนเองให้ลุล่วงเพื่อคว้าโอกาสในรอบต่อๆ ไปให้ได้

จึงน่าสนใจว่าจุดหมายแรกในปี 2024 ของ ปิศาจแดง จะออกเช่นไร จะเป็นไปตามที่แฟนบอลคาดหวังหรือไม่ ไว้มาติดตามพร้อมกัน


ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com