อาร์เซน่อล ยังรักษาตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเอาไว้ได้อีกสัปดาห์ หลังเก็บชัยชนะเหนือ วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้สำเร็จ
เป็นการเก็บ 3 คะแนนตามเป้า แต่ช่วง “ต้นเกม” และ “ท้ายเกม” เหมือนหนังคนละม้วน อารมณ์ของแฟนบอลต่างกันโดยสิ้นเชิง
อาร์เซน่อล เริ่มต้นได้สมบูรณ์แบบออกนำ 2-0 ตั้งแต่ 13 นาทีแรกจากการเข้าทำที่ต่อให้ วูล์ฟส์ ตั้งรับแน่นหนาแค่ไหนก็เอาไม่อยู่
ประตูแรกของ บูคาโย่ ซาก้า มีผู้เล่น วูล์ฟส์ อยู่ในเขตโทษ 7-8 คนได้ แต่ ซาก้า รับจบเอง เขาเป็นคนเริ่มต้นเล่นจังหวะแรกฝากบอลให้ กาเบรียล เชซุส ที่ขืนตัวบังบอลก่อนไหลคืน ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ เคาะเข้าเขตโทษอีกที ซาก้า วิ่งสอดมาล็อกหนีตัวบล็อกแล้วยิงด้วยขวาเข้าไป
ซาก้า เพิ่งยิงและจ่ายในเกมยุโรปเมื่อกลางสัปดาห์ ทำให้ฤดูกาลนี้มีส่วนร่วมได้ประตูไปแล้ว 18 ประตู มาตรฐานการเล่นสูงมาก แม้แต่ละนัดโดนรุมโดนอัดน่วมตลอด
ส่วนประตูสองเป็นการประสานงานที่สุดยอดเช่นกัน ผู้เล่นทีมเยือนได้แต่ยืนขาตายไม่สามารถป้องกันได้เลย ซาก้า โยนบอลล้นจากขวาไปซ้าย โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ตบจังหวะเดียวให้ กาเบรียล เชซุส ชิ่งเข้าช่อง ซินเชนโก้ ตามไปตวัดจากสุดเส้นเข้ากลางเลือกเป้า มาร์ติน โอเดการ์ด ที่จบสกอร์ได้คมกริบจากพื้นที่สังหารที่ยิงได้บ่อยมาก
การเข้าทำจังหวะนี้ไร้ที่ติจริงๆ ต่อบอลจังหวะเดียวรวดเร็วแม่นยำ เหมือนลูกซ้อมพื้นฐานที่ทุกทีมซ้อมประจำกันอยู่แล้วกับการฝากบอลเข้ากลางก่อนตามไปคัทแบ็กเข้ามายิง
แต่เล่นจริงไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ ความเข้าใจในการเล่นต้องสูงมากซึ่งเมื่อทำได้ในการแข่งขันจริงก็เป็นประตูที่ยอดเยี่ยม และบ่งบอกความเป็น “ทีมเวิร์ก” ได้อย่างดี
ซาก้า รับจบเองในประตูแรก
เป็นการออกสตาร์ทที่แฟนบอลปืนใหญ่บางคนไม่คาดคิดว่าจะดีขนาดนี้เพราะ 13 นัดแรกของฤดูกาลไม่มียิงประตูในช่วง 15 นาทีแรกแม้แต่ประตูเดียว ส่วนใหญ่เครื่องร้อนช้ายิงเยอะครึ่งหลังโดยเฉพาะ 15 นาทีสุดท้าย ต่างจากฤดูกาลที่แล้วที่ค่าเฉลี่ยใกล้เคียงกันในทุกๆ 15 นาที
ขึ้นนำ 2 ประตูด้วยรูปเกมที่คอนโทรลทุกอย่างเบ็ดเสร็จ และเกือบได้อีกลูกจากจังหวะกระโดดเกี่ยวบอลลงยิงของ เลอันโดร ทรอสซาร์ จึงไม่แปลกที่หลายคนจะคิดกันว่าสกอร์อาจไหลเหมือนเกมยุโรปที่เพิ่งถล่ม ล็องส์ ราบคาบ 6-0
ในช่วง 25 นาทีแรก วูล์ฟส์ ไม่ได้สัมผัสบอลในเขตโทษ อาร์เซน่อล แม้แต่ครั้งเดียว โอกาสยิงไม่ต้องพูดถึง แถมยังมาเสียผู้รักษาประตูจากอาการบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวอีก
โอกาสกลับสู่เกมของทัพหมาป่าทำท่าว่าจะเป็นไปได้ยากเพราะทีมของ แกรี่ โอนีล มาเยือนในสภาพที่ไม่สมบูรณ์นัก ชูเอา โกเมส และ มาริโอ เลอมิน่า สองตัวหลักตรงกลางติดโทษแบนพร้อมกัน ขณะที่ เปโดร เนโต้ ตัวจี๊ดสุดในแนวรุกก็เจ็บหนักพักยาว
เกมรุกของ วูล์ฟส์ ถูกตัดขาดไปเลยเพราะ ฮวาง ฮี-ชาน กับ มาเตอุส กุนญ่า ที่ถูกวางเป็นคู่กองหน้าร่วมกัน ต้องสลับกันถอยลงมาช่วยไล่บอล ข้างหน้าจึงเหลือคนเดียวและทำอะไรไม่ได้มากนัก
อย่างไรก็ตาม การที่ อาร์เซน่อล ไม่สามารถทำประตูที่ 3, 4 หรือ 5 ได้เพิ่มในช่วงเวลาเกือบ 80 นาทีไม่รวมทดเจ็บ กลายเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ วูล์ฟส์ ยังอยู่ในเกม
ปืนใหญ่มีโอกาสยิงรวมทั้งหมด 19 ครั้ง เอาเฉพาะครึ่งแรกก็มีโอกาสจะแจ้งอีกเพียบจาก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ โยกแล้วยิงชนเสา, กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายยิงติดเซฟ รวมถึง ทรอสซาร์ ได้ส่องไกลไม่เข้ากรอบ
เมื่อลูกทีมของ อาร์เตต้า ยิ่งเพิ่มไม่ได้ วูล์ฟส์ ก็ยังมีโอกาสอยู่เสมอ ทัพหมาป่าเริ่มไล่เพรสได้ดีขึ้นหลังผ่านครึ่งชั่วโมงแรก และส่งสัญญาณเตือนช่วงทดเจ็บที่ ฮวาง ฮี-ชาน ไล่บอลจนทำให้ ซินเชนโก้ กับ ซาลีบา ไม่เข้าใจกันเอง บอลทะลักเข้าเขตโทษยังดีที่ ดาบิด ราย่า ออกมาเร็วบล็อกจังหวะสุดท้ายเอาไว้ได้
โอเดการ์ด ยิงลูกถนัดนำ 2-0
ขณะที่ครึ่งหลัง โอเดการ์ด น่าจะมีอย่างน้อย 2 แอสซิสต์ในจังหวะไหลบอลถวายพานให้ ทรอสซาร์ และตัวสำรอง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ได้หลุดไปยิงชนเสาอย่างจัง รวมถึงโอกาสของ เดแคลน ไรซ์ และ บูคาโย่ ซาก้า ที่ได้ซัดหน้าเขตโทษ แต่หลุดกรอบไม่เข้าเป้า
อาร์เซน่อล ทำได้ดีกับจังหวะจบสกอร์ 2 ประตูแรก แต่ที่เหลือต้องยอมรับว่าไม่ละเอียดเท่าที่ควร และมี 2-3 จังหวะที่หากเลือกจ่ายเข้ากลางให้เพื่อนยิงก็น่าจะมีลุ้นมากกว่านี้
วูล์ฟส์ มาตีไข่แตกจนได้ในท้ายเกมจากการไล่บีบเข้าถึงบอลเร็ว ซินเชนโก้ ชะล่าใจไปนิดในจังหวะเล่นบอลใกล้เขตโทษตัวเอง เนลซอน เซเมโด้ จึงปรี่เข้าแซะได้ บอลไปถึง มาเตอุส กุนญ่า ดึงจังหวะให้บอลไหลหนีตัวบล็อกก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าประตูอย่างเฉียบขาด
กุนญ่า มีความมั่นใจในการเล่นช่วงนี้มาก ดาวยิงบราซิเลียนรวมถึง ฮวาง ฮี-ชาน ต่างพยายามยกระดับการเล่นขึ้นมาเพื่อทดแทนการขาดหายไปของ เนโต้ และในช่วงต้นครึ่งหลังก็มีจังหวะโยกหนี เดแคลน ไรซ์ เข้าไปซัดมุมแคบทำเอา ราย่า ต้องออกแรงเซฟ
เมื่อทีมเยือนไล่มาเป็น 2-1 โอกาสจึงเปิดมากขึ้น กำลังใจเริ่มเทไปฝั่งทีมเยือน อาร์เตต้า ต้องชะลอเกมด้วยการส่งตัวรับทั้ง จอร์จินโญ่ และ ยาคุบ คีวิออร์ ลงมาแทนตัวรุกอย่าง โอเดกการ์ด และ ซาก้า
แม้ตลอดครึ่งหลัง วูล์ฟส์ จะมีโอกาสยิงน้อยกว่าเพียง 4 ครั้ง แต่ยิงเข้ากรอบมากกว่าที่ 3 ครั้ง ส่วน โอกาส 7 ครั้งของ อาร์เซน่อล เข้ากรอบเพียง 2 ครั้ง
จากที่น่าจะเป็นงานง่ายสำหรับ อาร์เซน่อล กลายเป็นต้องลุ้นเหนื่อยจนจบเกมซึ่งแน่นอนว่าการที่บวกประตูเพิ่มไม่ได้กลายเป็นจุดสำคัญของเกม
วูล์ฟส์ มีฮึดช่วงท้าย
ขณะเดียวกัน ก็ต้องให้เครดิตกับ วูล์ฟส์ ที่ไม่ถอดใจไม่ง่ายๆ แม้โดนเร็ว 2 ลูก หากทีมของ โอนีล มาเยือนแบบเต็มๆ ก็น่าจะสร้างปัญหาให้ปืนใหญ่ไม่น้อย
ฟอร์มในช่วง 1-2 เดือนหลังของ วูล์ฟส์ ถือว่าไม่ธรรมดาเลยเพราะเคยพลิกชนะได้ทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ สเปอร์ส รวมถึงแบ่งแต้ม นิวคาสเซิ่ล กับ แอสตัน วิลล่า
แม้ อาร์เซน่อล อาจเสียดายที่ชนะไม่ขาด และต้องมาลุ้นเหนื่อยช่วงท้าย แต่การเอาตัวรอดด้วย 3 คะแนนที่ต้องการก็เป็นสิ่งสำคัญสุดเพราะรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ได้อีกสัปดาห์ไม่ว่าผลคู่อื่นจะเป็นอย่างไร
ชนะสวยงาม หรือชนะหืดจับ แต่ใจความสำคัญก็ยังเป็นการ “ชนะ” เหมือนเดิม แค่แตกต่างกันในรายละเอียดเท่านั้น
ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com