เข้ากับคำกล่าว 'สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ' จริงๆ หลังสิ้นเสียงนกหวีด ณ สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

3 คะแนนที่เกือบหลุดมือพร้อมโอกาสในรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กำลังจะเลือนหาย แต่ อองเดร โอนานา เป็นคนคว้ามันกลับมาหลังจากพุ่งปัดบอลในจังหวะจุดโทษ

อย่างที่ทุกท่านซึ่งชมเกมถ่ายทอดสดได้เห็น มันคือการแข่งขันที่เต็มไปด้วยดรามาโดยเฉพาะสถานการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในเกมซึ่งมาจากสองนักเตะจอมสร้าง 'คอนเทนต์' ของทีม

คนแรกคือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในฐานะคนโขกประตูชัยที่กำลังทำผลงานได้ดีหลังจากกลายเป็นตัวตลกในโลกออนไลน์ที่มักจะถูกนำไปชำแหละและขายขำอย่างต่อเนื่อง

แต่ผลงานในช่วงหลังกลับออกมายอดเยี่ยมและกลายเป็นกำลังสำคัญช่วยทีมในยามลำบาก แถมล่าสุดมาพร้อมประตูชัยที่ลงเอยด้วย 3 คะแนน

ไม่ต่างจาก โอนานา ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักกับผลงานมือรั่วหรือ 'ตรงเป็นตุง' ทำเอาแฟนบอลฝ่ายเดียวกันได้เสียวตลอดยามที่ฝั่งตรงข้ามมีโอกาสสับไก

แม้แต่เกมล่าสุดก็มีหลายจังหวะให้พูดถึงโดยเฉพาะการเปิดบอลที่ไม่แม่นยำหลุดออกข้างหรือไม่ตรงเป้า ซึ่งยังดีที่ประตูชาวแคเมอรูนเซฟสวยๆ แถมยังเป็นคนตัดสินเกมในวินาทีสุดท้าย

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น 'สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ' โดยเฉพาะชัยชนะ 3 นัดที่ล่าสุดที่มาจากผลงานนักเตะที่ถูกมองว่าเป็นส่วนเกินหรือโดนโจมตีด้านผลงาน

สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ทำ 3 ประตูจาก 2 นัด (บวกกับทำทีมเสียจุดโทษถึงสองเกม)

ดีโอโก้ ดาโลต์ ที่นานทีปีหนจะยิงได้กลับซัดประตูสุดสวยในเกมบุกเชือด เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ นักสร้างคอนเทนต์ (ให้แฟนบอลฝ่ายตรงข้าม) โขกประชัยในเกมล่าสุด

และ … อองเดร โอนานา กับจังหวะเซฟจุดโทษกลายเป็นฮีโร่หลังจากก่อนหน้านี้คือเป้าเล่นงานและคนขาย 'มีม' ของสโมสร


สิ่งเหล่านี้แปรเปลี่ยนเป็นชัยชนะให้ แมนชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เดินหน้าเฮ 3 นัดรวด ซึ่งทาง เอริก เทน ฮาก มองว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเพิ่มความมั่นใจ และตอนนี้คือการรักษาโมเมนตัมก่อนเกมนัดสำคัญในศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ วันอาทิตย์นี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสและเส้นทางใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ยังเปิดกว้างหลังจากคว้า 3 คะแนนแรกมาครองกับโปรแกรมอีก 3 นัดที่เหลือเพื่อลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์

ถือเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสหลังจากแพ้สองนัดแรก แม้ว่าชัยชนะนัดล่าสุดเป็นเพียงก้าวเล็กๆ แต่มันคือก้าวแรกที่สำคัญกับการทำงานส่วนที่เหลือ

ต่อจากนี้คือการเดินหน้าไปทีละเกมเพื่อรักษาโอกาสของตนเอง โดยหวังว่าทีมจะมี 6 คะแนนก่อนเจอโปรแกรมสุดโหดสองนัดสุดท้ายกับ กาลาตาซาราย (เยือน) และ บาเยิร์น (เหย้า)

ณ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญ (ในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก) คือการออกไปเยือน โคเปนเฮเกน ช่วงต้นเดือนหน้า ซึ่งแน่นอนว่าเป็นงานไม่ง่ายหลังจากทีมดังเดนมาร์กแสดงให้เห็นในเกมล่าสุด และวัดจากวันที่ บาเยิร์น ต้องเป็นฝ่ายตามหลังก่อน นับได้ว่าการไปเล่นที่ พาร์เค่น จะเต็มไปด้วยความยากลำบากแน่นอน

อีกหนึ่งจุดสำคัญคือผลงานแนวรุก ปิศาจแดง ที่ยังคงผิดเคืองไม่เปลี่ยนแปลง ดูจากสถิติ 5 เกมหลังสุดที่ผ่านมาของทีมมีเพียง ราสมุส ฮอยลุนด์ ในฐานะผู้เล่นแนวรุกที่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด ส่วนคนอื่นๆ หายเงียบไปหมด

ยิ่งเกมที่ผ่านมาได้ตอกย้ำถึงปัญหา (อีกครั้ง) เพราะใช่ว่าทีมจะไม่มีโอกาสจบสกอร์ แต่มันเกิดจากความไม่เด็ดขาดเฉียบคมในจังหวะสุดท้าย โอกาสแล้วโอกาสเล่าที่เกิดขึ้นกลับลงเอยไม่ยิงติดเซฟหรือก็หวดหลุดกรอบไปเอง

สิ่งเหล่านี้ต้องรีบแก้ไขและหาทางออกโดยเร็วที่สุด มันคือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ทีมกลับออกจากสนามพร้อมผลการแข่งขันที่ต้องการ อีกทั้งจะหวังให้ผู้เล่นตำแหน่งอื่นๆ ก้าวมารับผิดชอบต่อไปเช่นนี้ก็ใช่เรื่องดีเพราะมันจะกลายเป็นการตอกย้ำว่าแนวรุกซีซั่นนี้ไร้พิษสงไปกว่าเดิม (และไม่ได้การันตีว่าจะเกิดขึ้นไปตลอด)

โอกาสที่เกือบหลุดมือแต่ยังพุ่งไปคว้ากลับมาได้ หวังว่าทีมจะมีพัฒนาการในนัดต่อไปเพื่อพลิกโอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างที่พวกเขาต้องการ


ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com