ปัญหาตัวเจ็บ ส่งผลให้แมนยูไม่สามารถส่งนักเตะชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้ และนี่คือการจัดทีมด้วย "Combinationที่ดีที่สุด" ของแมนยูในฤดูกาล 2023/24 นี้

ปัญหาของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในขณะนี้ต้องบอกว่า มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถชี้ชัดลงไปได้แค่เฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่งได้ว่า ปัญหาเกิดขึ้นเพราะใคร

ผู้จัดการทีม ปีกตัวรุก ผู้รักษาประตู กองกลาง แผงหลัง?

มันมีปัญหาที่กระจายๆกันอยู่ และทุกๆปัญหาก็ส่งผลซึ่งกันและกันทั้งหมด โดยเฉพาะในภาพรวมของทีม เมื่อทีมเล่นไม่ดี ก็ทำให้ฟอร์มของนักเตะบางคนมีปัญหาไปด้วย ทั้งๆที่จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นนักเตะที่แย่อะไรขนาดนั้น แต่พอภาพรวมไม่ดี ฟุตบอลที่เล่นมันไม่ Run ไปตามระบบ ทำให้การเล่นของนักเตะคนดังกล่าวติดๆขัดๆไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นใครในทีมก็ตาม เจอผลกระทบหมด

ผลกระทบที่ส่งถึงกันในทีมตรงนี้ มันแยกกันไม่ได้จริงๆ เนื่องจากฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม ใช้ทีมเวิร์คเป็นหลัก ถ้าพาร์ทใดพาร์ทหนึ่งเล่นกันไม่ดี อีกพาร์ทหนึ่งก็มีปัญหาไปด้วย

ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ระบบการตั้งเกมจากแผงหลังไม่สามารถขึ้นเกมมาได้ แผงกองกลางก็จะต้องลำบากในการรับต่อบอลขึ้นมา เพราะต้องถอนลงไปช่วยด้วยอีกต่อ ซึ่งแนวรุกเองก็จะได้รับการป้อนบอลไปบุกได้ลำบากอีก อันนี้เป็นตัวอย่างที่เข้าใจได้ง่ายที่สุดแล้ว

ประเด็นหลักที่แฟนแมนยูพูดคุยกันก็คือ การรอคอยนักเตะที่บาดเจ็บให้กลับมาลงสนามอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ คาเซมิโร่, ลิซานโดร มาร์ติเนซ รวมถึงพวกลุค ชอว์ เอริคเซ่น พวกนี้ที่จะหายกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตาด้วย หลายคนก็เชื่อว่าเมื่อตัวเจ็บหายกลับมา แมนยูก็น่าจะดีขึ้นแน่ๆ ซึ่งนั่นก็ถูกต้อง แต่จริงๆแล้วสิ่งที่แมนยูรอ ไม่ใช่แค่ตัวนักเตะที่จะหายเจ็บกลับมาเท่านั้น

สิ่งที่แมนยูไนเต็ดขาด มันคือ “ความลงตัว” ที่เราแทบจะไม่มีเลยมาตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล เราขาดความลงตัวในทีมแทบจะทุกจุด เพราะมันจะขาดนิดขาดหน่อยมาตลอด ในแต่ละแอเรียของทีมก็ไม่สมบูรณ์มาตั้งแต่ต้น เพราะปัญหานักเตะบาดเจ็บ ทำให้สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น กลับไม่เกิด

ซึ่งในจุดนั้นมันคือเรื่องของ “Combination” หรือการจัดเซ็ตนักเตะให้ผสมผสานกันอย่างลงตัวและเหมาะสมในการใช้งาน ว่าใครควรจะลงเล่นกับใคร นักเตะคนไหนที่ควรลงประจำตำแหน่งบ้าง เพื่อให้ทีมเล่นกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครบถ้วนทุกมิติการเล่นให้มากที่สุด

เมื่อนักเตะตัวเจ็บหายกลับมา ผู้จัดการทีมจะมีตัวเลือกที่สามารถเลือกจัดลงไปเล่นได้อย่างอิสระ และเหมาะสมที่สุด ตามแทคติกหลักของทีม รวมถึงแทคติกในแต่ละนัดด้วย

Combination ที่ดีที่สุดของแมนยูไนเต็ดจะเกิดขึ้นทันทีเมื่อตัวเจ็บหายกลับมาทั้งหมด 

เราจะไปดูกันว่า Combination ไหนที่เรากำลังรอคอย และเป็นการใช้งานร่วมกันที่ดีที่สุด เท่าที่ทีมเราจะจัดได้ในฤดูกาลนี้ แยกย่อยเป็นแต่ละเซ็ตได้ดังนี้ เพื่อที่จะนำมารวมกันเป็นทีมที่ดีที่สุดของเราในฤดูกาล 2023/24

1. Combination กองกลาง : Mainoo + Casemiro + Bruno 

นี่คือชุดกองกลางที่ดีที่สุดของแมนยูในฤดูกาลนี้ ซึ่งยังไม่เคยเกิดขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว และเป็นเซ็ตที่เอริค เทน ฮาก พยายามจะปั้นและทดลองใช้ในเกมพรีซีซั่นแล้วในนัดเจอเรอัล มาดริด

แต่โชคร้ายที่ยังไม่ทันเล่น ค็อบบี้ ไมนู ก็บาดเจ็บออกไปตั้งแต่ต้นเกมทันที หลังจากนั้นเราก็ไม่มีสองคนนี้ลงสนามในช่วงต้นซีซั่นมายาวๆ จนกระทั่งไมนูเริ่มได้กลับมาลงเล่นช่วงเดือนท้ายๆ และคาเซมิโร่เพิ่งได้อยู่บนม้านั่งสำรองเมื่อเกมก่อน

คอมบิเนชั่นกองกลางชุดนี้ถือว่าสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว เพราะนักเตะทั้งสามคนมีมิติการเล่นที่สำคัญๆครบ และน่าจะสอดประสานซึ่งกันและกันได้ดี

-เกมรับ และการคุมพื้นที่ เราใช้คาเซมิโร่ รับผิดชอบงานตรงนี้ได้ คาเซมิโร่จะช่วยตัดเกมกลางสนามได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นมิดฟิลด์ตัวเดียวของทีมที่สามารถเล่นรับเต็มรูปแบบได้

-การขึ้นเกม ครองบอล เล่นโฮลดิ้งและเชื่อมเกมให้กับทีม ในลักษณะของตัวคุมจังหวะแบบเบอร์6 กึ่งเบอร์8 จะสามารถใช้ความคล่องตัวและทักษะของ ค็อบบี้ ไมนู เอาตัวรอดในแดนกลางได้ เพื่อทำให้การเล่นของทีมไหลลื่น และสามารถควบคุมบอลไปใช้งานได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเน้นครองบอล หรือจะเก็บบอลให้นิ่ง เพื่อซัพพอร์ตเกมเร็วของบรูโน่และตัวรุกแดนบนได้

-เกมรุก การเติมเกมไปจบสกอร์ การออกบอลเร็ว เราก็จะมีมิดฟิลด์ทำหน้าที่ตรงนี้อยู่ด้วย บรูโน่ เฟอร์นันด์ส ที่ทำทุกอย่างได้ในแนวรุก ทั้งการออกบอล ยิงไกล สอดขึ้นไปจบสกอร์เอง จ่ายคีย์พาสให้เพื่อนในทุกรูปแบบ ทำได้หมด

จะเห็นได้เลยว่า คอมบิเนชั่นของ ไมนู+คาเซมิโร่+บรูโน่ เราจะมีทุกมิติครบครัน ทั้งเกมรับ เกมรุก การเชื่อมเกมครองบอล ซึ่งสามคนนี้ก็เป็นมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดของทีมแล้วในตอนนี้ เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นคอมบิเนชั่นที่แฟนแมนยู และเอริค เทน ฮาก รอคอยอยู่เพื่อจะสร้างเซ็ตกองกลางที่แข็งแกร่งที่สุดของซีซั่นขึ้นมาได้

ตอนนี้คาเซมิโร่กลับมาแล้ว เชื่อว่ากลางชุดนี้ คือชุดที่ EtH แกรออยู่เหมือนกัน น่าจะได้เห็นเซ็ตนี้ลงคุมกลางในไม่ช้าแน่นอน และยังยืนยันคำเดิมว่า ถ้ากองกลางแข็งแกร่ง โอกาสชนะของทีมจะสูงที่สุด

2. Combination แบ็คโฟร์ : Shaw + L.Martinez + Varane + Dalot

แผงหลังชุดที่ดีที่สุดของเราในซีซั่นนี้ ก็แทบจะไม่ได้ลงเล่นร่วมกันเลย คนนั้นบาดเจ็บ คนนี้บาดเจ็บตลอดเวลา จากเซ็ตแบ็คโฟร์ 4 คนที่ดีที่สุด กลับกลายเป็นว่า 3 คนในนั้นบาดเจ็บเข้าๆออกๆทีมกันตลอด ได้แก่ ชอว์ วาราน มาร์ติเนซ คนเดียวที่ร่างกายแข็งแกร่งที่สุดซึ่งสามารถลงเล่นได้แทบจะทุกนัดในปีนี้ให้แมนยู คือดิโอโก้ ดาโลต์ ที่รักษาสภาพร่างกายได้ดีมากๆ แต่ที่เหลือคือโชคร้ายเจ็บบ่อยๆ เจ็บยาวกันอยู่ประจำ

สาเหตุที่คอมบิเนชั่นกองหลังเซ็ตนี้ เป็นเซ็ตที่ดีที่สุด มีหลายเหตุผล เช่น

2.1 ลุค ชอว์ เป็นแบ็คซ้ายที่มีความสมดุลสูงสุด เพราะสามารถเล่นได้ครอบคลุมทุกมิติ ชอว์ดีทั้งการเติมเกมรุก แข็งแกร่งและเหนียวแน่นมากในภาคเกมรับ รุกก็ดีรับก็แน่น แต่ที่สำคัญคือเขายังเป็นตัวเล่นที่สามารถตั้งเกมจากแดนหลังได้อีกหนึ่งคน ที่สามารถครองบอลออกบอลได้ดีมาก ร่วมกันกับลิซานโดร มาร์ติเนซ

เห็นชัดเลยว่า ขาดชอว์ไปตัวเดียว สมดุลทีมหายไปเพียบ เพราะชอว์เล่นได้ทุกมิติ การขาดชอว์ไปไม่ใช่แค่ทีมจะขาดเรื่องการเล่นจากแดนหลัง ขาด Ball progression แค่อย่างเดียว แต่มิติเกมรุกเกมรับที่โดดเด่นก็จะหมดไปด้วย ยิ่งถ้าคอมโบปีกซ้ายกับแรชฟอร์ดจะยิ่งเห็นชัด

2.2 ลิซานโดร มาร์ติเนซ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า Licha มีความสามารถอะไรบ้าง ทั้งในเกมรับที่แข็งแกร่งไว้ใจได้, การครอบครองบอลที่ชัวร์และใจเย็น สามารถเซ็ตบอลจากแผงหลังได้ รวมถึงเปิดเกมได้เองจากลูกเปิดที่เป็นบอลยาวขึ้นหน้า ลูกกลางอากาศก็ไม่ได้เสียเปรียบคู่แข่งมากนัก ตัวนี้ถือเป็น Core Player ที่เป็นตัวกำหนดวิธีการเล่นของฟุตบอลเทน ฮาก ทีเดียว

2.3 วาราน ด้วยสภาพร่างกายที่บาดเจ็บอยู่บ่อยๆทำให้เขามีปัญหามาก แต่ในยามที่ฟิตสมบูรณ์100% วารานคือเซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดของเรา ซึ่งเพียบพร้อมด้วยประสบการณ์ระดับสูง ความคล่องตัว เกมรับที่เหนียวแน่น ยังไงวารานก็ต้องเป็นตัวยืนของทีมหากว่าฟิตและมั่นใจ

2.4 ดาโลต์ อย่างที่เขียนไปแล้วว่า ดาโลต์เป็นแบ็คที่ฟอร์มโดดเด่นมากในปีนี้ เกมรับที่เคยรั่วมาก ปัจจุบันนี้พัฒนาขึ้น ถึงจะยังมีจุดบกพร่องอยู่บ้าง แต่มันดีขึ้น เขาเคลียร์บอลออกจากพื้นที่อันตรายได้อยู่บ่อยๆ ขณะที่เกมรุก เจ้าตัวฝึกซ้อมพิเศษและสามารถใช้ลูกยิงไกล เป็นอาวุธในแถวสองให้แมนยูได้ในเวลาที่เข้ากลางในลักษณะของ Inverted Wing-back ตามสมัยนิยมในยุคนี้ที่แบ็คต้องหุบเข้ากลางเพื่อเติมเกมให้แน่น

นี่คือแบ็คโฟร์ที่ดีที่สุดของเราในซีซั่นนี้ ถ้าได้ลงเล่นชุดนี้ร่วมกันยาวๆ ผลงานของยูไนเต็ดดีขึ้นแน่นอนทั้งเกมรับและสมดุลการครองบอล

3. Combination แนวรุก : Bruno + Garnacho + Hojlund + Rashford 

หนึ่งในสามคอมบิเนชั่นที่นำเสนอในบทความนี้ มีเซ็ตของแนวรุกนี่แหละที่เริ่มใช้มาสักพัก และเริ่มแก้ปัญหาแนวรุกได้บ้างแล้วจากการมีตัวเล่นที่ดีที่สุดลงไปทำเกมบุกในแดนสุดท้าย แม้ว่าอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบ และจริงๆควรจะดีกว่านี้

แต่นี่คือเซ็ตที่ดีที่สุด “เท่าที่เราจะจัดได้” ในตอนนี้

-ตัวคุมจังหวะแนวรุก จะมีบรูโน่ เฟอร์นันด์ส เป็นเหมือนวาทยากรที่ควบคุมวงดนตรีวงนี้อยู่ บรูโน่จะเป็นตัวออกบอลแจกจ่ายไปให้ตัวรุกต่างๆขึ้นไปจบสกอร์ให้ทีม กัปตันของเราจึงเป็นส่วนสำคัญมากๆในแนวรุก ถ้าไม่มีบรูโน่ หรือบรูโน่ออกบอลไม่ได้ แนวรุกของเราจะลำบากทันที เพราะงั้นจุดนี้จึงต้องระวังเป็นพิเศษ เหมือนอย่างในเกมเจอสเปอร์ส ครึ่งหลังบรูโน่โดนตัดเกมเร็ว และบีบติดตัวตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถออกบอลเร็วได้ง่ายเหมือนครึ่งแรก แนวรุกแมนยูก็นิ่งไปด้วย

-การ์นาโช่ คือตัวรุกที่ดีที่สุดของทีมในตอนนี้ ทำได้หมดทั้งการเปิดเกมรุก ปั้นเกมเอง จบสกอร์เอง และสามารถสร้างจังหวะตัดสินเกมได้เสมอๆ ฟอร์มการเล่นของการ์นาโช่ในฐานะตัวจริงเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆจนเขากลายเป็นตัวแบกที่ยึดตำแหน่ง 11 ตัวจริงของทีมแบบถาวรได้แล้ว

เอาจริงๆถ้าจะให้ดีที่สุด การ์นาโช่ควรได้เล่นปีกซ้าย LW ตามตำแหน่งถนัดของเขาถึงจะเวิร์ค แต่เนื่องด้วยปัญหาของแมนยูไม่มีปีกขวาที่เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบจริงๆจังๆ Antony ก็มีปัญหา ส่วนอีกสองคนอย่าง Amad กับ Facundo ก็ยังเป็นดาวรุ่งที่ต้องใช้เวลาพัฒนาต่อ ทำให้การ์นาโช่ต้องมาช่วยแก้ปัญหาปีกขวาให้ทีมไปด้วย นั่นทำให้น้องไม่สามารถเล่นได้อย่างเต็มที่ 100% 

ถ้าดึงการ์นาโช่กลับมาปีกซ้ายได้เมื่อไหร่ นั่นคือประสิทธิภาพที่แท้จริงของน้อง เสียดายว่าตอนนี้ต้องเล่นแบบนี้ หวังว่าปีหน้าน่าจะมีแนวรุกดีๆเข้ามาเติม Squad Depth ให้ทีมได้ในแนวรุกอย่างน้อยๆสักสองคน กองหน้าหนึ่ง ปีกขวาหนึ่ง จะดีมาก

-แรชฟอร์ด ด้วยการเล่นของเขามักจะมีปัญหาเสมอเวลาได้เป็นคนครองบอลบุก ด้วยธรรมชาติที่เจ้าตัวไม่ใช่ Winger แต่เป็น Striker มากกว่าตั้งแต่ขึ้นมาในยุคหลุยส์ ฟาน กาล แล้ว เพราะงั้นแรชชี่จริงๆถ้าจะใช้งานได้ ต้องให้เขาอยู่ใกล้ปากประตูที่สุด ให้เล่นกับบอลน้อยๆ และวิ่งชิงจังหวะรอบอลจ่ายจากเพื่อนเข้าไปจบสกอร์เท่านั้น

ตำแหน่ง Left Striker (LS :หน้าซ้าย) คือบทบาทที่ดีที่สุดของแรชในตอนนี้ เวลาให้แกปั้นเกมก็มีปัญหาเหมือนเดิมๆนั่นแหละ แต่ในจังหวะจบสกอร์ยังพอจะฝากฝังได้อยู่ และยังเป็นตัวรุกที่จบสกอร์ดีที่สุดของเราเท่าที่มี ยังไงแรชชี่ก็ถือว่ายังพอจะอยู่ในเซ็ต 11 ตัวจริงได้ แต่หากปีหน้ามีปีกขวาเก่งๆเข้ามา เขาจะต้องแย่งตำแหน่งกับการ์นาโช่ และ ฮอยลุนด์ เท่านั้น ถ้าไม่ดีพอก็ต้องสำรองเป็นตัวเปลี่ยน

-ฮอยลุนด์ กองหน้าตัวเป้าของทีม ตอนนี้ก็แทบจะเหมือนมีกองหน้าคนเดียวอยู่แล้วเพราะมาร์กซิยาลไม่ฟิตสักที ดังนั้นฮอยลุนด์ก็จึงเป็นหน้าเป้าที่ดีที่สุดของทีม ในลักษณะของตัว Target man ผสมกับการเป็น Pressing Forward ที่ค้ำแดนหน้าด้วยร่างกายได้, ใช้เล่นเพรสซิ่งหนักๆได้ 

ฮอยลุนด์มีความสามารถอยู่แล้ว ถ้าโอกาสมาบ่อยๆ ถ้าบอลถูกป้อนอย่างมีคุณภาพที่ดี ยังไงน้องก็จบสกอร์ได้เรื่อยๆ

สี่ตัวรุกในคอมบิเนชั่นนี้ ถือว่าดีที่สุดเท่าที่เรามีอยู่ในตอนนี้ แต่ถามว่ามันดีพอรึยัง จริงๆก็ยัง แต่เราไม่มีทางเลือก ยังไงก็ต้องจัดเซ็ตนี้ เพราะอย่างน้อยที่สุด 4 คนที่ลงสนามไปถือว่ามีความสามารถในการเล่นเกมรุกที่โดดเด่น และสร้าง “ผลลัพธ์” ได้จริงๆจังๆ ซึ่งนั่นคือจุดแตกต่างระหว่างฟร้อนท์ทรีตัวจริงอย่าง แรช+หลุนด์+โช่ เทียบกับสำรองอย่าง อันโทนี่ ฟาคุนโด้ อามัด สามรายหลังยังไม่สามารถสร้างผลลัพธ์จริงๆจังๆได้

เพราะงั้นตัวเล่นที่ยิงได้จริง ทำเกมได้จริง พวกนี้จึงจำเป็นต้องลงสนามก่อน ดังนั้นปีนี้ ก็คงจะต้องเป็น Rashford Hojlund Garnacho ไปยาวๆ แต่ถ้าปีหน้ามีปีกขวาเก่งๆเข้ามา

หรือทีมสามารถที่จะดึงตัว “Mason Greenwood” กลับเข้าสำเร็จ แมนยูไนเต็ดอาจจะมีฟร้อนท์ทรีที่แข็งแกร่งที่สุดของซีซั่น 2024/25 ด้วยเซ็ตนักเตะสามคนนี้ ซึ่งดูดีและน่าสนใจกว่าฟร้อนท์ทรีของปีนี้ซะด้วยซ้ำ

ทั้งหมดนี้คือ Combination ที่ดีที่สุดของเราในปีนี้ และเมื่อนำไปประกอบร่างกันเป็นทีม Manchester United ของฤดูกาล 2023/24 ชุดฟูลทีมที่รอเราอยู่ คือนักเตะทั้ง 11 คนที่เราเขียนไป ถ้าได้ลงเต็มทีมครบทุกคน แมนยูจะแข็งแกร่งมากๆ และเราเชื่อว่าทีมจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ ด้วยการเล่นที่ค่อนข้างสมบูรณ์ในทุกมิติ และสามารถทำผลการแข่งขันได้จริงๆ

เหลือแค่ว่า ทีมชุดนี้จะกลับมาพร้อมลงสนามเมื่อไหร่ และเอริค เทน ฮาก จะจัดชุดนี้ลงสนามได้ตอนไหนเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าตัวพร้อมๆ เอริคจัดแน่ๆเรามั่นใจ ดังนั้นเราจึงสามารถที่จะบอกได้ว่า 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดของฤดูกาล 2023/24 จะเป็นนักเตะชุดที่ทุกๆ Combination ในสนามลงตัวกันหมด และหลอมรวมกันเป็นทีม 11 คนที่ดีได้ ตามระบบ 4-2-3-1 ที่สมดุลและลงตัว ดังภาพข้างล่างนี้

ส่วนนักเตะคนอื่นๆนอกเหนือจากเซ็ตนี้ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความสำคัญ ตัวเล่นรองลงไปที่สามารถใช้เป็นตัวปรับเปลี่ยนแทคติกได้ ยังคงมี คริสเตียน เอริคเซ่น, เมสัน เมาท์, อารอน วานบิสซาก้า, แฮรี่ แมกไกวร์, อันโทนี่, แม็คโทมิเนย์ ถ้าอยู่กันครบๆเราก็จะมีขุมกำลังเชิงลึกทีึ่สามารถหมุนเวียนการลงเล่นได้ดี โดยเฉพาะสองกองกลางอย่าง เอริคเซ่น กับ เมาท์ ถ้าฟิตกันหมด ทีมจะสามารถเลือกแทคติกได้หลากหลายมากๆ

เมสัน เมาท์ ไว้เติมพลังงานในแดนบน, เอริคเซ่นไว้คุมเกมรุก, แม็คโทมิเนย์เป็นอาวุธพิเศษเติมเกมรุกในช่วงท้าย, แมกไกวร์สแตนด์บายกองหลังที่แข็งแกร่ง พาร์ทที่ขุมกำลังเชิงลึกยังบางอยู่มาก คือเซ็ตตัวรุก เป็นสิ่งที่ทีมจะต้องเสริมในปีหน้า ไม่แพ้กับการผลัดใบกองหลังชุดใหม่

จากทั้งหมดที่เขียนมานี้ เชื่อว่าผู้อ่านน่าจะเห็นชัดว่า ทำไมนักเตะที่บาดเจ็บไป มันส่งผลมาก เพราะถ้าตัวเล่นของเราอยู่ครบ เราจะสามารถจัด “Combination ที่ดีที่สุด” ลงสนามได้ ซึ่งคอมบิเนชั่นตรงนี้แหละที่จะทำผลงานได้ดี

สิ่งที่แฟนแมนยูเซ็งกันอยู่คือฟอร์มการเล่นที่ไม่แน่นอน รูปแบบการเล่นที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวเล่นครบๆ สิ่งที่เราบ่นๆเซ็งๆกันอยู่ มันจะต้องดีขึ้นแน่นอนในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังนี้

ถ้าทีมสามารถจัดคอมบิเนชั่นดีๆเหล่านี้ลงเล่นได้ ผลงานเราจะดีตามไปด้วยแน่นอน รอเชียร์กันต่อไปครับ

#BELIEVE

-ศาลาผี-



ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com