ตำแหน่ง Regista กับการหาคุณสมบัติผู้เล่นที่จะเข้ามาเป็นกองกลางร่วมกับ ค็อบบี้ ไมนู ในระยะยาว มีจุดพิจารณาที่น่าสนใจหลายๆอย่างในด้านคุณสมบัติที่เหมาะจะนำเข้ามาเติมเต็มไมนูของเรา เป้าหมายที่น่าสนใจมีใครบ้าง และ Regista คืออะไร คำตอบอยู่ในบทความนี้ครับ
หนึ่งในประเด็นที่แฟนผีสนใจกันในช่วงนี้ คือเรื่องของการทำทีมในอนาคตว่า เราควรหานักเตะแบบไหน มาเล่นร่วมกับ Kobbie Mainoo ในแผงกลางของแมนยูกันแน่ เพราะตัวที่เล่นร่วมกันขณะนี้อย่าง Casemiro อายุก็ขึ้นเลข 3 ไปแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ต้องหาคู่หูหลักที่อายุน้อยกว่านี้มายืนคู่กันในอนาคตอยู่ดี
คุณสมบัติของกองกลางตัวที่จะยืนคู่กับไมนู ควรมีอะไรบ้าง คือสิ่งที่ต้องวิเคราะห์กันให้ละเอียด ทั้งในเรื่องการเข้ากับแทคติกทีม รวมถึงเรื่องคุณสมบัติที่เหมาะสม
การ “เติมเต็ม” ให้ค็อบบี้ ไมนู ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อจะทำให้น้องได้ใช้ความสามารถตัวเองได้เต็มที่ ทีมก็จะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น
ซึ่งหนึ่งในบทบาทการเล่นมิดฟิลด์ใน Role ที่เหมาะสมที่สุดในการจะนำมาจับคู่กับ ค็อบบี้ ไมนู มันคือมิดฟิลด์ตัวต่ำในตำแหน่งที่เรียกว่า “Regista” นั่นเอง
ประเด็นนี้มันเริ่มต้นขึ้นมาจากข่าวที่ Calhanoglu เอ่ยประโยคทองคำออกมาว่า “I’m The Best Regista In The World, No One Believed In Me, I Wasn’t Ready At AC Milan” ก็เลยเป็นหัวเรื่องที่น่าสนใจ และฉุกคิดขึ้นมาเกี่ยวข้องกับเรื่องค็อบบี้ ไมนู ของแมนยูไนเต็ด ในส่วนของชาลฮาโนกลูนั้นถือเป็นมิดฟิลด์ที่ครบเครื่องคนนึง
กองกลางที่สกิลทักษะดี และเล่นได้ครอบคลุมหลากหลายนั้น ส่วนใหญ่จะสามารถเล่น Regista ได้ด้วย ถ้าคุณมีความเป็นมิดฟิลด์ธรรมชาติที่เก่งจริงๆ ซึ่งเขาเองก็เล่นตำแหน่งนี้ได้เมื่ออยู่ภายใต้การทำทีมของซิโมเน่ อินซากี้ โดยมีตัวบนที่ช่วยอยู่อย่าง Barella และ Mhkitaryan ซึ่งมันสมดุลมากในแผงกลางทีมงูใหญ่ในระบบ 3-5-2 ที่ใช้กลางเล่นร่วมกันสามตัว
มีตัวคุมต่ำหนึ่งตัว ตัวพลังงานหนึ่งตัว ตัวทำเกมรุกหนึ่งตัว บาลานซ์มาก
เจ้าตัวเองก็มีไอดอลเป็นปีร์โล่อยู่แล้วด้วย การถอยลงมาจากตัวรุก เป็นตัวคุมเกม ก็เลยทำได้ดี ส่วนเรื่องที่ว่าชาลฮาโนกลูนั้นเป็น Regista ที่ดีที่สุดในโลกรึเปล่า เป็นความเห็นส่วนบุคคลที่แล้วแต่คนจะมอง (ผู้เขียนก็ไม่ได้คิดว่าเขาดีที่สุดในโลกตอนนี้เหมือนกัน แต่ก็อยู่ระดับท็อปแน่ๆล่ะ แล้วดูตำแหน่งจ่าฝูงของอินเตอร์ในตอนนี้สิ)
Regista พูดเป็นภาษาบ้านๆว่า มิดฟิลด์ตัวคุมเกมในแดนต่ำนั่นเอง อธิบายคุณลักษณะเป็นตัวอักษรคงจะยาก แต่ให้คิดถึงการเล่นของพวกกลางต่ำตัวแกนหลักครองบอล ออกบอลเชื่อมเกม คุมฐานล่างของทีม อย่าง จอร์จินโญ่ โรดรี้ เป็นต้น หรือถ้าเป็น Regista ในตำนาน ก็น้าแจ้สมัยหนุ่มๆก็ได้
Regista ภาษาอิตาเลียนมันคือ “ตัวควบคุม” แปลออกมาเป็นอังกฤษอีกที คือผู้เล่นที่เป็น Director นั่นเอง เราจะทราบกันว่าเป็นมิดฟิลด์ตัวควบคุมภาพรวมเกมการเล่นในทีม
ถ้า Enganche คือตะขอขึงเกมรุกแดนบน Regista คือตะขอตัวล่างนั่นแหละ แต่จะเป็นคนกำหนดทรงและจังหวะช้าเร็วของเกมเป็นหลัก หรืออีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เห็นภาพง่ายๆ Regista คือ “DLPเวอร์ชั่นที่แข็งแกร่งดุดัน” (บางคนจะเข้าใจว่า DLP กับ Regista คือตำแหน่งเดียวกัน แต่จริงๆแล้วแค่เล่นพื้นที่เดียวกัน คุมเกมเหมือนกัน แต่มีรายละเอียดที่ต่างกันอยู่พอควร แยกกันสองตำแหน่งนี้)
โครส ตัวเล่นไฮบริดที่เป็นตัวคุมเกมได้ทั้งตัวบน ตัวต่ำ เล่นได้ทั้ง Enganche และ Regista
จุดเด่นของ DLP ถ้าไม่มีการออกบอลเกมรุก ทำเกมจากแดนต่ำ นั่นไม่ใช่ DLP เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ ถ้ามิดฟิลด์ตัวต่ำคนไหนเล่นเพลย์เมคได้จากแดนหลังแบบนั้น ถึงจะเป็น DLP เช่น ปีร์โล่ / เอริคเซ่นตอนมาแมนยู เป็นต้น
Regista เปรียบเทียบเหมือนเป็น DLP สายเสริมพลัง รับภาระที่เป็น “Heavy Tasks” มากกว่า DLP เช่น เพรสซิ่งด้วย คุมตำแหน่งคุมพื้นที่ด้วย, ต้องเล่นเกมรับ เข้าแทคเกิล ตัดบอล รวมถึงต้องมีความแข็งแกร่งด้านกายภาพที่สามารถโฮลดิ้ง บังบอลสู้คู่แข่งได้ ซึ่งนอกจากการคุมเกม จะต้องเล่นในภาคเกมหนักทั้งหลาย
การปัดกวาดเกมรับถือเป็นอีกหนึ่งงานที่ Regista จะต้องทำ เพราะโดยธรรมชาติของ Position นี้ ตัว Regista ต้องยืนด้านหน้าแผงหลังอยู่แล้ว มันเลยต่างจาก DLP ในจุดนี้พอสมควร ขณะที่ Regista ก็ไม่ต้องออกบอลเกมรุกเยอะเท่า DLP ขนาดนั้น
เพราะงั้น ถ้าพูดถึงตัวคุมจังหวะที่มีมิติการปักหลักคุมพื้นที่ เล่นเกมรับด้วยนั้น นึกถึงโรดรี้ก็จะชัดเจนที่สุด ตัวนี้ครบเครื่อง เหนือชั้น แข็งแกร่ง และเกินเบอร์ Regista ไปหลายขุม เพราะเติมขึ้นไปเล่นกลางรุก ยิงเองก็ยังได้
สำหรับความเห็นส่วนตัวผู้เขียน “Rodri” คือ Regista ที่เก่งที่สุดในโลก ณ ขณะนี้แล้ว
ส่วนเรื่องการคุมเกม เป็นมิติหลักของ Regista ที่ต้องมีในตัว การยกตัวอย่างจอร์จินโญ่มา เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในการอธิบายตำแหน่งนี้ เพราะบักจอร์คือคุมเกม ออกบอล เน้นๆเลย
ตัวอย่างอื่นๆ เช่น อันเชล็อตติ ที่ต้องยืนรับบอล คุ้มกันให้ One-club man อย่าง ฟรังโก้ บาเรซี่ + คอสตากูตาร์, ยืนคู่ไรจ์การ์ด ข้างหน้าเป็นกุลลิต เป็นต้น (อยากเกิดเร็วกว่านี้จังเลย)
แม้กระทั่ง “ดักลาส ลุยซ์” ที่ผมแซวมันบ่อยๆ เอาจริงๆลุยซ์เป็นตัวเล่นที่ผมชอบมานานแล้ว ในช่วงก่อนหน้านี้ ลุยซ์คือ Regista ที่โดดเด่นมากๆในการคุมเกมแดนต่ำได้อย่างแน่นอน มีประสิทธิภาพ, ตั้งเกมให้ทีมได้ ติดดาบเล่นเกมรับได้
ระยะหลัง พอมี บูบาการ์ คามาร่าเข้ามา ดักลาส ลุยซ์ก็เล่นเบอร์ 8 มากขึ้น แต่นี่คืออีกคนที่เป็น Regista ที่คุณสมบัติ ได้แก่ การโฮลดิ้ง การออกบอล เกมรับ ทำได้หมด ลุยซ์เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของมิดฟิลด์ตัว Regista ที่เข้ากับแทคติกฟุตบอลในโลกยุคปัจจุบันเช่นกัน
ถึงมันจะกวนโอ๊ยก็เหอะ แต่ก็เก่งจริงๆ
หลายคนอาจอยากถามว่า ค็อบบี้ ไมนู ของเราถือเป็น Regista ไหมครับ
ก็ต้องบอกว่า สกิลทักษะหลายๆส่วนของน้องสามารถเป็น Regista ได้แน่นอน โดยเฉพาะความสามารถในการโฮลดิ้งบอล ครองบอลแก้เพรส ออกบอลได้ คุมเกมได้ อันนี้สำคัญสุด ไมนูเล่นได้แน่ครับ คุมบอลเก่งๆแบบนี้ เหมาะมากเช่นกันที่จะให้เล่น Regista
แต่..
ถ้าใช้ ไมนู เป็นแค่ Regista ก็จะใช้ศักยภาพได้ไม่หมดเท่า เพราะจริงๆแล้วน้องเป็นพวกมิดฟิลด์สาย Progressive ที่เก่งในเรื่องการทำเกม สร้างเกมขึ้นหน้าให้ทีม
ไม่ควรให้ไมนูเล่น 6 Regista อย่างเดียว แต่ควรเป็น 6 กึ่ง 8 / 8 / 8 กึ่ง 10 ในลักษณะของการรันระบบ สร้าง Ball Progression ให้ทีมมีบอลขึ้นหน้าตลอดเวลา เพื่อให้เกมรุกลื่นไหล และสร้างโอกาสทำเกมขึ้น Final Third บ่อยๆ เกมรุกก็จะอันตรายมากขึ้น
เอาจริงๆไมนูก็ถูกใช้เป็น Regista อยู่แล้วเวลาที่จำเป็น เหมือนที่ตอนนี้เอริค เทน ฮาก ก็จะปรับเอา ไมนู มาเล่น Regista ในทุกๆครั้งที่จำเป็นต้องถอด คาเซมิโร่ออกจากสนาม เวลาส่งแม็คโทมิเนย์ลงมา ก็เหมาะมากถ้าจะให้แม็ค เล่นเป็น 8 แทนไมนูเลย แล้วถอยไมนูลงมายืน 6 คุมเกมแทนคาเซมิโร่ ทุกๆนัดจะเป็นแบบนี้ในแผนของเอริค เทน ฮาก
แต่จะน่าเสียดายศักยภาพสูงสุดที่แท้จริงของเขามากๆที่ไมนูทำได้ดีกว่าการยืนต่ำ ประตูชัยต่อวิลล่า ก็เกิดจากมิติแดนบนของไมนู / ประตูชัยเกมวูล์ฟ ก็เกิดจากการขึ้นหน้าไปยิงของไมนู ตอนเป็นดาวรุ่งก็เล่นแดนบนเน้นๆ เพราะงั้นอันนี้น่าจะชัดเจนว่า ธรรมชาติของน้องควรอยู่พื้นที่ไหน
ถ้าจะให้ดีที่สุด ตัวเล่นที่จะหามาจับคู่กับค็อบบี้ ไมนู ควรเป็น “เบอร์ 6” อยู่ด้านหลังไมนูคนนึง เลือกเป็นตัวคุมพื้นที่ด้านหลังแท้ๆ เช่นตอนนี้เรายังมี คาเซมิโร่ หรือ อัมราบัต จะดีที่สุด แล้วดันไมนูขึ้นสูงอีกหนึ่งสเต็ป นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
ใช้จับคู่แฟรงกี้ เดอ ยอง? (เผื่อทะลึ่งฟลุคซื้อมาได้ คิดเล่นๆเฉยๆ)
ใช้คำว่า พอใช้ได้ แต่อาจจะขาดบางมิติไป
สองคนนี้จริงๆเป็นตัวเล่นสายเดียวกันเป๊ะๆ ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นมิดฟิลด์ตัว “Orchestrator” ที่คุมจังหวะการเล่น ตั้งเกมขึ้นหน้า และกำหนดลมหายใจของทีม
ซื้อมายืนด้วยกันมันก็ได้ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องมีตัวใดตัวหนึ่งทำหน้าที่คุมวงนอก ยืนต่ำอยู่ดี ซึ่งถ้าให้เล่น Double Pivot ยืนคู่กันแล้วครองบอลรอบนอกอย่างเดียวเน้นๆมันก็ได้ แต่จะเป็นการใช้สองคนนี้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพทั้งคู่
คิดง่ายๆว่า FDJ ไม่ใช่เบอร์ 6 ธรรมชาติ แค่นั้นก็ชัดเจนแล้ว
ถ้าใครอ่านบทความผมบ่อยๆ ผมจะเปรียบเทียบเรื่อง “การใช้งานแบบที่กิน Ram หน่วยความจำไม่พอ” อยู่บ่อยๆ แต่ถ้าเอาไมนูเล่นคู่แฟรงกี้ คุมเกมร่วมกัน นั่นก็มีปัญหา RAMเหลือเกินไปเหมือนกัน สุดท้ายแล้วแดนบนก็จะมีตัวรุกแค่ 4 คน มากสุดให้แค่ 5-6 คนรวมแบ็คเติมด้วย การเล่นเกมรุกที่ไม่เข้มข้นแบบนั้น ยุคนี้เจอ Low-block เข้มๆก็เจาะไม่ได้แล้ว
ตัวอย่างจากเกม ลิเวอร์พูล-ลูตัน เมื่อคืนก่อน ครึ่งแรกก็เจอปัญหานี้ ครึ่งหลังลิเวอร์พูลโอเวอร์โหลด แล้วเล่น High Pressing เต็มรูปแบบ ขยี้จุดอ่อนลูตันจนชิงบอลบุกได้รัวๆ นั่นก็คือฟุตบอลเชิงบุกที่ใช้เรื่องปริมาณในการ “โอเวอร์โหลด” เช่นกัน ถ้าเราใช้ไมนู + แฟรงกี้ มันอาจจะทำให้รูปแบบเกมบุกเช่นนี้ทำได้ไม่เต็มที่
หรือถ้าจะบอกว่า ถ้างั้นให้แฟรงกี้คุมต่ำสักคน แล้วให้อีกคนเติมขึ้นหน้าแบบ 8 สิครับ เหมือนที่ตอนนี้ก็ใช้ไมนูเล่น 8 คู่หนวดอยู่
มันก็พอได้ครับ (บางเกมก็มีให้จับคู่ ไมนู+เอริคเซ่นอยู่) แต่ให้ลองคิดภาพตามว่าถ้าให้ FDJ หรือ Mainoo ยืนต่ำห้อยเดี่ยวคนเดียว บางมิติมันจะมีปัญหาเรื่องเกมรับ ยังไงก็ไม่ได้อยู่ดี สองคนนี้ไม่มีใครเป็นตัวรับธรรมชาติเลย ไมนูก็เล่นแดนบนมาตั้งแต่สมัยดาวรุ่งแล้ว
อย่างน้อยๆ มิดฟิลด์ที่เอามาเล่นร่วมกับค็อบบี้ ไมนู ควรจะต้องเป็นกลางต่ำที่มีเกมรับติดปลายนวมเอาไว้บ้าง เพื่อความสมดุลของทีม และเพื่อสกรีนงานหน้าแผงหลัง ไม่งั้นกองหลังของทีมก็จะเจอแนวรุกคู่แข่งเล่นงานโดยตรงบ่อยๆ ลำบากกองหลังกับผู้รักษาประตูอีก
ดังนั้น การหาตัวคู่ค็อบบี้ ไมนู จึงควรจะเป็นมิดฟิลด์สาย “Defensive Midfielder” (มิดฟิลด์ตัวรับ) หรือไม่ก็ Regista ซึ่งจะมีความแข็งแกร่งในด้านกายภาพ ที่เล่นโฮลดิ้งได้ คุมเกมเชื่อมเกมได้ เล่นรับได้ ปัดกวาดได้ นั่นเอง
คู่หู ค็อบบี้ ไมนู จึงควรเป็นมิดฟิลด์สองสายนี้เท่านั้น ถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด เน้นการเติมเต็มสิ่งที่ค็อบบี้ ขาด ซึ่งยังขาดแค่การคุมพื้นที่ด้านหลัง / เกมรับเน้นๆ และมิดฟิลด์คู่หูเขาถ้าเป็นตัวปักหลักที่ดีได้จะดีมาก เพราะอย่าลืมมิติการคัฟเวอร์พื้นที่ของไมนู ที่ขยัน และช่วยทีมได้เยอะ ซึ่งเป็นจุดที่ได้คืนมาจากการขาดเฟร็ดไป ไมนูก็ถือว่าวิ่งช่วยทีมเยอะ ทั้งถ่างออกไปช่วยปีก+แบ็ค หุบเข้ามาคุมแดนต่ำช่วยกลางรับเวลาที่ต้องถอยลงมาป้องกัน
คำถามสำคัญก็คือ มีใครน่าสนใจบ้างที่จะดึงมาคู่ไมนูในอนาคต
ตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในพรีเมียร์ลีก คือ “Amadou Onana” ที่กำลังปรับตัวในพรีเมียร์ลีกได้ดีกับเอฟเวอร์ตัน เป็นตัวรับที่โดดเด่นเรื่องเกมรับ แต่มีออฟชั่นชัดเจนในการเล่น Box-to-Box ได้ด้วย ถือว่าเป็นตัวที่จะ pair กับไมนูได้ดีในแดนกลาง คุณสมบัติสอดรับกันอยู่ Onana พัฒนาได้อีกในอนาคต
ลองลุ้นให้เอฟเวอร์ตันตกชั้นดูก็ได้ เผื่อได้ราคางามๆ(ฮา) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทีมอื่นก็จ้องตาเป็นมันเช่นกัน
น่าเสียดายว่า “Gabriel Moscardo” โดนปารีสเซ็นยาวถึงปี 2028 ไปแล้วและปล่อยยืมกลับให้โครินเธียนส์ เขาคือชื่อที่ควรจับมาผูกกับไมนูที่สุดอีกคนในตำแหน่งกลางต่ำที่สามารถทำเกมจากฐานได้ดี แถมเป็นเด็กใน generation เดียวกันเป๊ะๆ ด้วยวัย 18 ปี ติดทีมชาติบราซิลชุด U-23s ไปบ้างแล้ว ดูดีในระบบ 4-2-3-1 ที่ยืนเป็น DM ในระบบกลางคู่ คนนี้ถ้าหายเจ็บกลับมาก็ตัวหลักอีกหนึ่งคนเหมือนกัน น่าไป Scout มามากๆ
Martín Zubimendi กลางรับที่แฟนบอลจำนวนมากรู้จักกันดี และอยากให้ดึงมาเสริมถ้าทำได้ ซึ่งมิดฟิลด์เรอัลเบติสรายนี้ได้รับการยอมรับสูงมาก อายุยังไม่เยอะ สามารถซื้อมาแทนคาเซมิโร่ในระยะเวลา 6-7 ปีได้เลย บางทีเราก็ไม่ได้จำเป็นต้องซื้อตัวอายุน้อยมาอย่างเดียว นักเตะอายุรุ่น 25 ปีแบบ Zubimendi ก็เลือกมาเสริมทีมระยะยาวได้อยู่
ใครชอบการเล่นของ วาตารุ เอนโด แห่งลิเวอร์พูล ต้องบอกว่า ซูบิเมนดี้ มีความสามารถในการขยับตำแหน่งซัพพอร์ตทีมเช่นกัน นอกจากความสามารถอื่นๆที่มีอยู่รอบตัว ซูบิค่อนข้างน่าสนใจพอควร
Nicolas Seiwald กลางรับจากไลป์ซิกอายุ 22 ปีรายนี้ ขยัน ปัดกวาดดี แทคเกิลแน่น ตัวนี้ก็เหมาะที่จะมายืนเฝ้าหลังบ้านเพื่อให้ไมนูได้โบยบินขึ้นหน้าเหมือนกัน ติดแค่นิดเดียวแค่ว่า เขาตัวเล็กไปหน่อย มาอยู่ในพรีเมียร์ลีก อาจทำให้กายภาพแมนยูเสียเปรียบคู่แข่งหนักเข้าไปอีกถ้าเล่นกลางร่วมกับไมนู
Federico Redondo วัย 21 ปี ลูกชายของตำนานอย่าง Fernando Redondo ตัวนี้เป็นกลางรับเชิงสูงที่ทำให้คิดถึงบุสเก็ตต์มากๆ ชอบเหลี่ยมบอลที่เนียนและเหนือชั้น เหมือนบุสรีเจนมาเกิดใหม่ในเซฟนี้เลย น่าเสียดายที่ Inter Miami เพิ่งจะเซ็น Redondo ไปได้ แต่เขาคือตัวเล่นอนาคตที่น่าจับตามองมากๆ และเหมาะในการเอามาจับคู่เป็นตัวล่างให้ไมนูเช่นกัน รออีกสักปีสองปี ไปเซ็นจากไมอามี่มาอีกทีก็ดีนะ
มีคนถามว่า แล้ว Dan Gore ของเรา เหมาะจะยืนเป็นคู่หูไมนูแดนกลางหรือไม่
ตามความรู้สึกของผู้เขียนคิดว่าไม่แมตช์เท่าไหร่ กอร์เองจริงๆแล้วสมัยเยาวชนก็เล่น 8 กึ่ง 10 เป็น AM คล้ายๆกัน แค่น้องขยัน ถอยลงมาเล่น 8 ได้ หรือ 6 กึ่ง 8 ก็พอได้ และมีความมุ่งมั่นเข้าบอลเต็มที่ หลายคนอาจเข้าใจว่าจะให้ Gore แปลงร่างเป็นอลัน สมิธ เล่นมิดฟิลด์ตัวต่ำให้ทีม แต่จริงๆไม่ได้ พูดกันตรงๆ Gore ก็ทับตำแหน่งกับ Mainoo เหมือนกัน คงยาก
หรือถ้าอยากได้ตัวเลือกไม่สนอายุ แฟนแมนยูหลายท่านสนใจ João Palhinha กันมากๆ จริงๆก็ซื้อมาได้ถ้าพูดเรื่องคุณสมบัติการเป็นกลางต่ำ แต่แค่ว่าแกอายุเยอะมากเท่านั้นเอง (28) ยังไงก็ไม่ควรซื้อมาแล้ว
แต่เรื่องคุณสมบัติน่ะ Palhinha ใช้ได้
เพราะงั้น เท่าที่เห็นตอนนี้ นักเตะที่เข้าแก๊ปและน่าสนใจ ก็ Amadou Onana ที่เป็นแคนดิเดทสำคัญที่เหมาะมากสำหรับการพิจารณาตรงนี้ แต่ค่าตัวก็แพงมากแน่นอน มีชื่อเสียง มีดีกรีอย่างนี้ แฟนผีอาจต้องทำใจ แล้วไปหาของดีราคาถูกมาใช้ ซึ่งผู้เขียนส่วนตัวชอบลูกชายคุณพ่อ Redondo มากๆ ไม่งั้นก็ต้องเป็นตัวนอกสายตาคนอื่นๆไปเลย เช่น ที่มีคนสนใจ Mats Wieffer ของเฟเยนูร์ด ตัวนี้เป็น Box-to-Box สายพลังง่านวิ่งพล่านทั่วเกาะ อาจจะไม่เข้าแก๊ปสักเท่าไหร่
บางคนอาจจะให้รอตัวดาวรุ่งแมนยูว่า ตัวต่ำมีใครน่าสนใจอีกบ้าง สองคนที่มีแนวโน้มตอนนี้ก็คงเป็นกัปตัน Finley McAllister หรือไม่ก็ Tyler Fletcher ในทีมชุด U-18s ที่ยังไม่แพ้ใครมาทั้งซีซั่นจนถึงตอนนี้ แต่ก็คงจะนานไปนิดนึงถ้าจะรอให้เด็กๆขึ้นมาได้
เอาจริงๆคู่หูไมนูที่ดีที่สุดก็คือ คาเซมิโร่ นั่นแหละ เราแค่ต้องหาตัวแทนคาเซในระยะยาวให้ได้เท่านั้นเอง ถ้าแฟนผีไม่รังเกียจอะไร จริงๆแล้วถ้าดึง โซฟียาน อัมราบัต ซื้อมาถาวรในราคาไม่แพงมากได้ เราก็พอจะใช้บังเล่นแทนคาเซมิโร่ เพื่อคู่ไมนูได้เหมือนกัน นั่นคือการจับคู่ที่ถูกต้องในเชิงแทคติก
บางทีเป้าหมายมันอยู่ใกล้ตัวมากๆจนเรามองข้ามไปนั่นเอง
ตัวต่ำเก่งๆสักคน จะเป็น DM หรือ Regista ได้หมด ถ้าเรามีตรงนี้ มันจะทำให้ Kobbie Mainoo ของเรา ได้เล่นอย่างเต็มประสิทธิภาพ และจะเป็นผลดีกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในระยะยาวอย่างแน่นอน ซัมเมอร์นี้อาจจะยังไม่ใช่ Priority ในการเสริมทีม แต่เชื่อว่าฤดูกาล 2025/26 เราน่าจะได้เห็น “คู่หูไมนูตัวจริง” ในแดนกลางแน่นอน และดีไม่ดีอาจจะได้เริ่มเห็นตัวแทนบรูโน่ ในระยะยาวแล้วด้วย
หวังว่าสักวันนึงจะเป็นแบบนั้น ถ้าหาเป้าหมายที่ใช่ และโคตรเก่งเข้ามาได้ แมนยูจะแน่นสุดๆในระยะยาว เพราะผู้เขียนเชื่อว่า ทีมฟุตบอลเก่งๆหนึ่งทีม ถ้าจะเล่นให้เหนือกว่าคู่แข่งได้จริงๆ แดนกลางสำคัญมาก ทีมที่คุมกลางได้ คือทีมที่คุมเกมได้ ทีมท็อปในตำนานของโลกล้วนแล้วแต่มีแผงกลางชุดที่แข็งแกร่งทั้งนั้น เช่น โมดริช-โครส-คาเซ หรือ ชาบี้-บุสเกตต์-อิเนียสต้า เป็นต้น อาร์เซนอลตอนนี้เริ่มได้ ไรซ์-โอเดการ์ด-ฮาแวร์ตซ ขึ้นมาแล้ว
การที่ยูไนเต็ดหา combination ของ ไมนู-บรูโน่-คาเซ ได้แล้วก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ยังไงเราก็ต้องหาตัวแทนในระยะยาวมาให้ทีมเช่นกัน
ติดตามกันต่อไปครับว่าใครจะเข้ามาเป็นอนาคตมิดฟิลด์ตัวหลักของทีม ถ้าหาได้ ทีมจะแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าแน่นอน
#BELIEVE
-ศาลาผี-
ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com