ในช่วงออกสตาร์ท ศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023-2024 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ทำผลงานได้ดีภายใต้การคุมทีมของ อังเก้  โปสเตโคกลู ขณะที่ อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งแชมป์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างแท้จริง ส่วน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี ก็พัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

 อย่างไรก็ตาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวดัตช์ ซึ่งทำงานเข้าสู่ปีที่ 2 นั้น พ่ายให้กับ คริสตัล พาเลซ และ กาลาตาซาราย คาถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเกมลีกและ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 นัดติดต่อกัน

ก่อนหน้านี้ พาเลซ ของภายใต้การนำของ รอย ฮอดจ์สัน เทรนเนอร์มากประสบการณ์ชาวอังกฤษ เก็บชัยชนะในการเป็นทีมเยือนได้เพียง 3 นัดจาก 14 เกมเยือนใน พรีเมียร์ลีก แต่พวกเขาสามารถมีชัยเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แบบสุดเซอร์ไพรส์

ขณะเดียวกัน ผลงานในลีก 7 เกมที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เทน ฮาก เก็บชัยชนะเพียง 3 นัด และพ่ายไปถึง 4 นัด พร้อมกับหล่นมารั้งอันดับ 10 ในตารางคะแนน โดยถือเป็นการสตาร์ทในลีกที่เลวร้ายที่สุดของพลพรรค “ปีศาจแดง” ในรอบ 34 ปี

ความหวังในซีซันที่ 2 ของ เทน ฮาก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูเหมือนจะพังทลายลงแล้ว และคงเป็นงานยากที่พวกเขาจะกลับมาสู่เส้นทางการลุ้นแชมป์ร่วมกับทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้, สเปอร์ส, อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล

ในเกมกับ พาเลซ นั้น นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด แทบไม่สามารถคุกคามแนวรับผู้มาเยือนได้แบบชัดเจนเลย และไม่มีการสร้างความอันตรายต่อทีมของ ฮอดจ์สัน มากนัก โดยหลังจบเกมบรรดาสาวก “เรด เดวิลส์” ส่งเสียงโห่กันทั่วสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด

เทน ฮาก กล่าวว่า “ผมเข้าใจแฟนบอล เพราะเมื่อเราเล่นในบ้านหรือออกไปนอกบ้าน และเจอกับทีมอย่าง คริสตัล พาเลซ เราต้องชนะเท่านั้น ผมพูดด้วยความเคารพต่อคู่แข่ง ผมรู้ว่าทุกเกมใน พรีเมียร์ลีก เป็นเรื่องยากมาก คุณต้องเล่นให้ดีที่สุด ผมเข้าใจแฟน ๆ ที่คาดหวังชัยชนะ แต่เราไม่สามารถทำได้”

ใน 3 เกมถัดไปรวมทุกรายการตลอดเดือนตุลาคม แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้ลงเล่นในบ้านถึง 3 เกม แต่ตอนนี้ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่ใช่ป้อมปราการที่แข็งแกร่งเหมือนฤดูกาลที่แล้วอีกต่อไป และมันยากจะคาดเดาถึงฟอร์มการเล่นของพวกเขา

          ในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายให้กับ ไบรท์ตัน 1-3 เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นการปราชัยครั้งแรกต่อหน้าแฟนบอลในรอบกว่าหนึ่งปี และอีกเพียงสองสัปดาห์ต่อมา พาเลซ รวมถึง กาลาตาซาราย ก็มาเอาชนะพวกเขาได้ติดๆกัน

เทน ฮาก กล่าวต่อว่า “ตอนนี้เราแพ้สองเกมติดต่อกันใน พรีเมียร์ลีก ที่บ้านของตัวเอง และเราจะต้องทำให้ดีกว่านี้ ซึ่งแน่นอนว่า เราต้องทำให้ได้ เราต้องแสดงออกมาในภาษากายของเราว่า โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คือป้อมปราการ และคุณไม่สามารถได้อะไรออกกไปจาที่นี่ และสิ่งเดียวที่คุณจะได้ไปคือ ความพ่ายแพ้”

“ผมคิดว่า ผมตำหนินักเตะไม่ได้ และไม่ควรบอกว่า พวกเขาไม่ได้วิ่ง พวกเขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างแล้ว แต่สุดท้ายในเรายังได้ไม่ดีพอ”

แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงประตูได้มากไม่เท่ากับในฤดูกาลที่แล้ว และในทางกลับกันพวกเขาเก็บคลีนชีตได้เพียง 9 จาก 3 เกมรวมทุกรายการ โดยสถิติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า “ปีศาจแดง” กำลังมีปัญหาทั้งเกมรุก และเกมรับ

มาร์คัส แรชฟอร์ด หัวหอกชาวอังกฤษ ที่เคยทำได้ 30 ประตู เมื่อฤดูกาลที่แล้ว กลับทำได้เพียงประตูเดียวในฤดูกาลนี้ ซึ่งเท่ากับ ราสมุส ฮอจลุนด์ กองหน้าชาวเดนมาร์ก ที่เพิ่งย้ายมาจาก อตาลันต้า ด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์

เทน ฮาก กล่าวต่อว่า “ผมคิดว่า แรชฟอร์ด สามารถทำได้ดีกว่านี้ และผมมั่นใจว่าเขาจะยิงประตูได้  เขาทำงานหนักมาก และนั่นคือสิ่งที่เขาทำ เขาจะยิงประตูแล้วความมั่นใจจะตามมาก แต่มันจะไม่เป็นไปโดยอัตโนมัติ ทุกคนในทีมต้องช่วยกัน และวันนี้การตัดสินใจในจังหวะต่างๆของเรายังไม่ดีพอ”

ในช่วงที่ผ่านมา อดีตกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ่ มูรินโญ่ และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ต่างก็เคยเจอกับการออกสตาร์ทซีซันที่ย่ำแย่ และก็ต้องโดนตะเพิดออกจากตำแหน่ง โดยเวลานี้ เทน ฮาก ก็เจอปัญหาคล้ายๆกัน และก็ต้องหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุดก่อนจะสายเกินไป 

ขอบคุณเนื้อหาจาก 90min.com
https://www.90min.com/th/posts/opinion-manchester-united-and-eric-ten-hag-crisis-that-need-to-solve-as-soon-as-possible