เอเมอร์สัน รอยัล กองหลังชาวบราซิลของ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สโมสรยักษ์ใหญ่แหง่ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังเจอบททดสอบสำคัญในการท้าทายเพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีม “ไก่เดือยทอง” ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ อังเก้ ปอสเตโคกลู

แบ็คขวา วัย 24 ปี ย้ายจาก บาร์เซโลน่า ในศึก ลา ลีกา สเปน มาเล่นกับ สเปอร์ส เมื่อปี 2021 ด้วยค่าตัว 21.5 ล้านปอนด์ และกลายเป็นตัวหลักของทีมมาตลอด แต่ในฤดูกาลนี้ สถานการณ์ของ รอยัล เปลี่ยนไปจากเดิมหลังจากได้เป็นตัวจริงในลีกเพียง 3 จาก 13 เกมในลีก

รอยัล กล่าวว่า “ผมฝึกซ้อมอย่างหนักเสมอแม้ว่าจะไม่ได้ลงเล่นก็ตาม แต่ผมไม่ใช่ผู้เล่นที่ยอมรับการนั่งเป็นตัวสำรอง ผมเป็นคนนั้นมาตลอด ผมเป็นคนที่ฝึกฝนอย่างหนัก และรักที่จะแข่งขันมาโดยตลอด ผมมีความสามารถในการแข่งขันในทุกสิ่งที่ผมทำ”

“ถ้าผมเล่นปิงปองผมอยากเก่งที่สุด ถ้าผมเล่นบาส ผมก็อยากจะเก่งที่สุด ถึงแม้จะไม่เคยเล่นบาสเลยในชีวิตก็ตาม นี่คือความสามารถในการแข่งขันที่ผมมี ขอบคุณพระเจ้าที่ผู้จัดการทีมมองเห็นมัน เขาเห็นว่า ผมแข่งขันกันอย่างหนัก และพยายามช่วยเพื่อนร่วมทีมด้วยเช่นกัน มันไม่ใช่แค่เกี่ยวกับผมเท่านั้น ผมพยายามคิดถึงทีมเสมอ และช่วยให้แน่ใจว่าทุกคนจะฝึกซ้อมอย่างดีก็เพราะผมเป็นคู่แข่ง”

“ผมเคารพผู้จัดการทีมเสมอ และอย่างที่ผู้จัดการทีมบอก ผมฝึกซ้อมอย่างหนักอยู่เสมอ แม้ว่าผมจะไม่ได้ลงเล่นก็ตาม แต่ยืนยันว่า ผมไม่ใช่นักเตะที่ยอมนั่งสำรอง ผมจะไม่มีวันยอมรับสิ่งนั้นในชีวิตแนอน ผมเป็นนักเตะที่สู้เพื่อโอกาสงสนาม ผมคิดว่ามันต้องเป็นแบบนั้น ผมไม่อยากพูด พูด พูดมากเกินไป ผมแค่อยากแสดงให้คนอื่นเห็นในสนามว่าผมควรจะได้เล่น ผมจะทำสิ่งนั้นต่อไป”

ขณะเดียวกัน ปอสเตโคกลู ก็รู้ดีถึงการทำงานหนักของ รอยัล มาตลอด โดยกล่าวว่า “ถ้าคุณฝึกซ้อมไม่ดี คนเหล่านี้ก็พร้อมที่จะเข้ามาแทนที่อยู่เสมอ พวกเขาผิดหวังแน่นอนที่ไม่ได้เล่น 100 เปอร์เซ็นต์อย่างที่ควรจะเป็น”

ปัจจุบันตำแหน่งแบ็คขวาของ รอยัล นั้น มี เปโดร ปอร์โร ยืนเป็นตัวเลือกแรกอยู่ แต่แนวรับชาวบราซิล ยืนยันว่า ตนเองสามารถขยับมาเล่นเป็นฟูลแบ็คฝั่งซ้าย หรือเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ตามคำสั่งของผู้จัดการทีม

รอยัล กล่าวว่า “เห็นได้ชัดว่ามันแตกต่างออกไปเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมรับ เพราะตำแหน่งการยืนของคุณจะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง แต่อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ ผมมาเพื่อช่วยทีม แม้ว่าพวกเขาจะให้ผมเป็นผู้รักษาประตู ผมก็จะเป็น ผมอาจจะไม่ใช่นักเตะที่เก่งที่สุด แต่ผมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด”

ในเวลานี้ สถานการณ์ของ สเปอร์ส เข้าสู่ช่วงวิกฤตอย่างหนัก หลังจากนักเตะตัวหลักอย่าง เจมส์ แมดดิสัน, มิกกี้ ฟาน เดอ เวน, ริชาร์ลิสัน คริสเตียน โรเมโร และ อีฟ บิสซูม่า ต่างได้รับบาดเจ็บ และติดโทษแบน และ รอยัล ก็พร้อมจะทำหน้าที่แทน

รอยัล กล่าวต่อว่า “ผมคิดว่าสิ่งสำคัญคือ ต้องมีผู้เล่นที่สามารถเล่นตำแหน่งที่แตกต่างกันได้ แน่นอน คุณสามารถใส่ผู้เล่นคนไหนก็ได้ในทีม แต่การทำงานที่ดีจริงๆ นั้นเป็นเรื่องยาก หากผู้จัดการทีมวางผมไว้ที่ไหนสักแห่ง เขารู้ว่าผมจะทำงานได้ดี”

“ตอนนี้ เรามีนักเตะที่ดีบางคนที่ได้รับบาดเจ็บหรือติดโทษแบน แต่ทีมไม่ใช่แค่ผู้เล่น 11 คนที่ออกสตาร์ท คุณต้องมีทีมที่ดีมากเพื่อที่จะบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ผมชอบคิดแบบเกมต่อเกม แต่ผมมั่นใจมากในทีมชุดนี้ เรามีทีมที่ยอดเยี่ยมพร้อมด้วยผู้เล่นที่ดี เรามีผู้จัดการทีมที่มีสไตล์การเล่นที่ดีจริงๆ

“เราเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในเวลานี้ และเรากำลังสู้อยู่ ผมหวังว่าเราจะสู้เพื่อทุกสิ่งในฤดูกาลนี้ อย่างที่ผมบอกไป ผมเป็นผู้แข่งขันที่ต้องการชัยชนะ แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ล่ะ เราจะต่อสู้เพื่ออยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

 การมีนักเตะที่ยอมเสียสละ และทุ่มเทเพื่อทีมกับทุกบทบาทที่ได้รับมอบหมายอย่าง รอยัล นั้น ทำให้ สเปอร์ส มีสปิริตภายในทีมที่ดี และบางทีอาจเป็นจุดสำคัญที่ทำให้พลพรรค “ไก่เดือยทอง” กลับสู่ชัยชนะได้อีกครั้ง

ขอบคุณเนื้อหาจาก 90min.com
https://www.90min.com/th/posts/opinion-mission-for-emerson-for-come-back-to-first-XI-at-tottenham