ในศึกฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 ที่ผ่านมา ทุกคนคงเห็นตรงกันว่า สรีระร่างกายของนักฟุตบอล มีความสำคัญต่อผลการแข่งขันไม่แพ้ฝีเท้าของนักเตะและมันสมองการวางแผนของโค้ชเลย

เห็นได้ชัดว่านักเตะของทีมระดับแนวหน้าของเอเชียล้วนร่างกายกำยำ แข็งแกร่ง เวลาปะทะเบียดแย่งบอลทำได้อย่างดุดัน หน้าเกรงขาม ซึ่งจุดนี้เชื่อว่า “มาซาทาดะ อิชิอิ” กุนซือของทัพ “ช้างศึก” คงมองออก และพยายามเดินหน้าหานักเตะฝีเท้าดี หุ่นดี เข้ามาเติมแกร่งให้กับทีม “ช้างศึก” ต่อไป

โดยเฉพาะในแนวรับ ตัวหลักอย่าง เอเลียส ดอเลาะ, พรรษา เหมวิบูลย์ และสุพรรณ ทองสงค์ ที่รูปร่างสูงใหญ่คงเป็นกระดูกสันหลังให้กับทีมในระยาวไม่ไหวแน่ 


ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมตัวเฉพาะหน้าก่อนทัวร์นาเมนต์สำคัญ อิชิอิ ต้องหากองหลังที่ฝีเท้าดี และ รูปร่างสูงใหญ่ ไว้เป็นตัวเลือกอยู่ในทีมเยอะๆ 

แน่นอนเมื่อล็อกสเป็กแล้วเชื่อว่าทุกสายตาต่างจ้องมองไปที่พัฒนาการของ ชนภัช บัวพันธ์ กองหลังจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ โจนาธาร เข็มดี กองหลังจาก ราชบุรี เอฟซี  2 กองหลังร่างใหญ่ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่มีโอกาสลงสนามให้ต้นสังกัดอย่างสม่ำเสมอ 

ยิ่งในรายของ โจนาธาร แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า ต้องการมีส่วนร่วมกับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ในยุคเจแปนเวย์ ซึ่งฟอร์มการเล่นตอนนี้บอกตามตรงว่า โจนาธาร สมควรถูกเรียกกลับเข้าสู่ทำเนียบลูกหนังทีมชาติไทยอีกครั้ง 


แต่หนึ่งในตัวละครที่ไม่ค่อยมีแสงสปอร์ตไลท์ส่องแสงไปหา แต่ฟอร์มการเล่นเริ่มกลับมาคงเส้นคงวาอีกครั้งต้องขอชี้เป้าไปที่ มาร์โก บัลลินี กองหลังลูกครึ่งไทย-อิตาเลียน ของ “สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 

จริงๆ แล้ว บัลลินี ไม่ใช่กองหลังนอกสายตาของแฟนบอลไทย เพราะเขาได้รับการจับตามองตั้งแต่สมัยค้าแข้งกับ ชัยนาท ฮอร์นบิล ต่อมาจึงถูกบิ๊กทีมอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมทีมในเลก 2 ปี 2019

ขณะที่กราฟลูกหนังกำลังพุ่งสุดขีด ติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ในยุค มิโลวาน ราเยวัช รวมถึงทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และเตรียมลุยศึกซีเกมส์ ในปีเดียวกันที่ฟิลิปปินส์ แต่ดันโชคร้ายบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าฉีกขาดระหว่างฝึกซ้อม ต้องพักยาวไปกว่าครึ่งปี 


หลังจากหายเจ็บ บัลลินี ไม่ได้โอกาสลงสนามมากนัก จนแฟนบอลแทบลืมชื่อเขาไปแล้ว ก่อนที่ “กิเลนผยอง” จะปล่อยตัวเขาไปให้ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในช่วงเลก 2 ฤดูกาล 2022/23 

ทว่า บัลลินี ย้ายไปอยู่ดินแดนล้านนาไม่นาน ความโชคร้ายมาเยือนอีกครั้ง เมื่อได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่า จนเขาต้องกลับไปรักษาตัวที่เมืองโบโลญญ่า ประเทศอิตาลี 

อย่างไรก็ตามเขาสามารถชนะอาการบาดเจ็บและคัมแบ็คสู่สังเวียนลูกหนังได้อีกครั้ง นอกจากความแข็งแกร่งของสภาพจิตใจ พร้อมกำลังใจจากครอบครัวแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังชนิดต้องปรบมือให้คงหนีไม่พ้น “บิ๊กฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่มอบโอกาส สร้างความมั่นใจ ด้วยการจับเขาต่อสัญญากับทีมออกไปอีก 


ทว่าก่อนจรดปากการลงน้ำหมึก “บิ๊กฮั่น” ได้เปิดอกพูดคุยกับ บัลลินี อย่างจริงจังว่า เขาจะต้องพัฒนาตัวเองและไม่เล่นพลาดซ้ำๆ ซากๆ อีกเด็ดขาด 

เขาเองก็รับปาก พร้อมยกระดับการเล่นของตัวเอง เมื่อได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง เขาสามารถก้าวมาเป็นตัวหลักของทีมเรียบร้อยแล้ว แถมยังทำผลงานยอดเยี่ยม ทำสถิติเข้าปะทะต่อหนึ่งเกมมากที่สุดในรีโว่ ไทยลีกฤดูกาลนี้ 9 ครั้ง 

ล่าสุดในเกมบุกไปเสมอกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด แบบไร้สกอร์ เขาเข้าปะทะชนะในเกมมากที่สุด 7 ครั้ง ด้วยฟอร์มการเล่นขั้นเทพแบบนี้ เขาถูก มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทย ที่เข้าไปชมเกมที่สนาม อบจ. ขอนแก่น เก็บข้อมูลไว้เรียบร้อยแล้ว 


ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักที่หัวเข่า ซึ่งเหมือนเป็นการตกนรกของนักฟุตบอล จะสามารถเอาชนะอาการบาดเจ็บ กลับมาลงสนามในลีกสูงสุดของไทยได้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา 

แน่นอนว่าการกลับมาติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ในเกมเตรียมลุยศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่จะพบกับ เกาหลีใต้ ในเดือนมีนาคมนี้ คงเร็วเกินไปสำหรับ บัลดินี 

แต่ถ้าเขายังรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีแบบนี้ไว้ได้ และไม่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บอีก เชื่อว่าโอกาสติดทัพ “ช้างศึก” ชุดใหญ่ จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ 


ถ้าเป็นจริงคงเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่สุด สำหรับการไม่ยอมแพ้ของกองหลังวัย 25 ปี ที่ชื่อ มาร์โก บัลลินี

เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาสมควรได้รับจริงๆ


ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com