เชสก์ ฟาเบรกาส อดีตกองกลางทีมชาติสเปน ของ อาร์เซนอล และ เชลซี 2 สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก ออกมายอมรับไม่เคยคิดว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกทีมชาติอิยิปต์ ของ ลิเวอร์พูล จะประสบควาสำเร็จกับการเล่นฟุตบอลในอังกฤษได้

ฟาเบรกาส เคยเล่นที่กับ ซาล่าห์ ที่ เชลซี ในระหว่างซีซัน 2014-2015 โดยเวลานั้น ดาวเตะทัพ “มัมมี่” เพิ่งย้ายมาจาก เอฟซี บาเซิล และต้องตกเป็นตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่ และไม่มีใครคาดคิดว่า เขาจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของวงการฟุตบอลเมืองผู้ดีเหมือนในปัจจุบัน

ฟาเบรกาส กล่าวว่า “ในตอนนั้น เขาไม่ได้สมบูรณ์แบบมากนักเมื่ออยู่หน้าประตู บางทีมันอาจเป็นเรื่องของโอกาสในการลงเล่ร แต่คุณจะเห็นพัฒนาการของเขา คุณเห็นได้ว่า เขารวดเร็ว คุณเห็นได้ว่าเขากำลังจู่โจมคู่แข่งอย่างน่ากลัว แต่เมื่อเขาปะทะตัวต่อตัว บางทีเขาอาจไม่แข็งแกร่งเท่าตอนนี้

ซาลาห์ เซ็นสัญญากับ เชลซี ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตโค้ชชาวโปรตุเกส เมื่อปี 2014 แต่ล้มเหลวในการเล่นกับทีมชุดใหญ่ จากนั้น ก็ถูกปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวกับ ฟิออเรนติน่า และ โรม่า ก่อนที่ “หมาป่าเหลืองแดง” จะคว้าตัวไปไปร่วมทีมแบบถาวรในปี 2016

นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล ในปี 2017 ปีกชาวอียิปต์รายนี้ยิงไปถึง 153 ประตู และทำไป 67 แอสซิสต์ จากการลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก 251 นัด โดยคว้ารางวัลรองเท้าทองคำมาแล้ว 3 ครั้ง และปัจจุบันคือหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก

  ขณะเดียวกัน อดีตมิดฟิลด์ อาร์เซนอล ยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยของ ลิเวอร์พูล เพื่อนร่วมทีมของ ซาล่าห์ ว่า ต้องการเวลาอีกเล็กน้อยเพื่อปรับตัวเข้ากับการเล่นในอังกฤษ หลังจากช่วงที่ผ่านมาโดนวิจารณ์อย่างหนัก

   ฟาเบรกาส กล่าวถึง ดาวยิง วัย 24 ปี ซึ่งย้ายจาก เบนฟิก้า มาร่วมทีม ลิเวอร์พูล ในปี 2022 ด้วยค่าตัว 85 ล้านปอนด์ และยิงไป 14 ประตู จาก 48 นัด ใน พรีเมียร์ลีก ว่า “คุณต้องเข้าใจว่า ผู้เล่นหลายคนต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก”

“คุณต้องการโค้ช หรือทีมงานของคุณเพื่อสนับสนุนคุณ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงชื่นชม อาร์แซน เวนเกอร์ เสมอ บางครั้งเราก็ต้องอดทนมากกว่าคนอื่นๆ นิดหน่อย”

นอกจากนี้ ฟาเบรกาส มองว่า การกลับมาของ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพกัปตันทีมชาติเบลเยียม ที่ได้รับบาดเจ็บไปนานกว่า 5 เดือน นั้น จะทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทีมที่น่ากลัวอีกครั้ง และกลับมาลุ้นแชมป์เช่นเดิม

  ฟาเบรกาส กล่าวว่า “ในตอนนี้ เขาเหมือนเด็กน้อยที่ได้รองเท้าใหม่ เขาตื่นเต้น เขายังมีความกระหายเต็มที่ เขามาด้วยความมุ่งมั่นมาก ตอนนี้น่าสนใจมากว่า เขาจะเป็นอย่างไรบ้างเมื่อลงสนามครบ 90 นาที ได้หลายเกมติดต่อกัน”

ขณะเดียวกัน ในวัย 32 ปี ฟาเบรกาส ระบุว่า เดอ บรอยน์ อาจต้องเปลี่ยนบทบาท และแนวทางการเล่นด้วยการลงมายืนต่ำกว่าเดิมเพื่อเป็นการรักษาสภาพร่างกายตนเองไม่ให้ใช้งานหนักจนเกินไป ซึ่งเป็นวิธีเดียวกันกับที่เขาเคยทำมาก่อน

อดีตดาวเตะ “กระทิงดุ” กล่าวว่า “เมื่อเขาเริ่มมีสภาพร่างกายไม่เหมือนเดิม เขาจะสามารถถอยลงมาเล่นบริเวฯกลางสนามได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผมก็เคยยืนเป็นกองกลางตัวรับมาก่อน ยกตัวอย่าง เขาอาจจะยืนปักหลักข้างๆ โรดรี้ และจัดการสิ่งต่างๆ จากจุดนั้น เพราะนั่นคือสิ่งที่ผู้เล่นที่พิเศษ และชาญฉลาดทำเมื่อพวกเขามีอายุมากขึ้น”

ขอบคุณเนื้อหาจาก 90min.com
https://www.90min.com/th/posts/feature-salah-nunez-and-de-bruyne-in-fabregas-sight